ในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนได้รายงานไปแล้วว่า BlockFi หรือผู้ให้บริการด้านแพลทฟอร์มการกู้คริปโตชื่อดังนั้นได้ทำการโอนเหรียญ Bitcoin (BTC) ไปให้ลูกค้าของพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ รวมกันเป็นประมาณ 701 BTC
ผู้ใช้งานบางรายเผยว่าพวกเขาได้รับการข่มขู่ทางกฎหมายจากบริษัท หากไม่คืน BTC ไปให้พวกเขา เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถือเป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในการใช้งานเว็บกระดานเทรดแบบ centralized อีกครั้งหนึ่ง
BlockFi ต้องการ Bitcoin คืน
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ พนักงานของ BlockFi นั้นได้ออกมาเผยแคมเปญแจกของรางวัลของพวกเขา
แคมเปญแจกของรางวัลนั้นก็คือการแจกเหรียญ stablecoin ให้กับผู้ที่มีโวลุมการซื้อขายสูงตามที่เงื่อนไขกำหนดไว้ แต่แทนที่พวกเขาจะจ่ายเป็น stablecoin พวกเขากลับพลาดไปจ่ายเป็น Bitcoin จำนวน 701 BTC แทน โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 29 ล้านดอลลาร์
ภายหลังจากนั้นทางบริษัทก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการนำเงินของพวกเขาคืน แต่ผู้ใช้งานบางรายก็ได้โอน Bitcoin ที่ได้มาฟรี ๆ ออกไปแล้ว
หนึ่งในผู้ใช้งานที่โชคดีสามารถโอนเหรียญออกไปได้ทันนั้น ได้รับอีเมล์จาก BlockFi มาทำการขู่เข็ญเพื่อเอาเงินคืน และมีการเสนอเงินแรงจูงใจมูลค่า 500 GUSD ให้ อีกทั้งยังมีการตั้ง deadline วันที่สามารถคืนเงินได้วันสุดท้ายอีกด้วย
“ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดบัญชีดอกเบี้ย” กิจกรรมที่เป็นการฉ้อโกงรวมถึงความพยายามใด ๆ ที่จะถอนเงินที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของไม่ได้โอนไปยังบัญชี Crypto Interest Account นั้นไม่สามารถทำได้โดยเด็ดขาด”
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว สิ่งนี้จะดูเหมือนว่าเป็นการขโมย แต่โซเชียลก็ออกมาแสดงความเห็นกันต่าง ๆ นานา โดยหนึ่งในนั้นมองว่า Bitcoin ถือเป็นระบบการเงินแบบ decentralized ที่ทุกคนต้องดูแลตัวเอง หากกดโอนส่งไปแล้ว จะไม่สามารถนำมันกลับมาได้อีก ตามหลักแนวคิดของ Satoshi Nakamoto ที่การทำธุรกรรมนั้นไม่ควรที่การ charge back และควรมองเป็นบทเรียนที่ BlockFi นั้นทำพลาดเอง
นอกจากนี้ผู้ใช้งานบางรายยังเผยว่านี่เป็นความผิดพลาดของเว็บกระดานเทรดแบบ centralized หากมีการใช้เว็บเทรดแบบ decentralized ปัญหาการเรียกเอาเงินกลับคืนแบบนี้ก็จะไม่มีมาให้เห็น
ยังคงเปิดให้บริการต่อตามปกติ
ผู้ใช้งาน BlockFi รายหนึ่งได้ออกมาร้องเรียนบน Reddit ของเขาว่าไม่สามารถที่จะถอนเงินออกมาจากแพลทฟอร์มดังกล่าวได้ นอกจากนี้เขายังได้กล่าวถึงขั้นตอนการตรวจสอบอันยุ่งยากในการถอนเงินดังกล่าวอีกด้วย โดยหนึ่งในนั้นก็คือการขอขั้นตอนการยืนยันตัวตนผ่านทางไบโอเมตริกซ์ภายใน 1 เดือน
ผู้ใช้งานดังกล่าวได้ออกมาคาดเดาถึงสาเหตุที่ทางบริษัทใช้ลูกเล่นดังกล่าวเพื่อไม่ให้ลูกค้าถอนเงินของพวกเขาได้ง่าย ๆ นั้นอาจเป็นเพราะตอนนี้พวกเขากำลังประสบปัญหาเงินขาดแคลน
“โพสต์นี้มีขึ้นเพื่อแจ้งเตือนผู้คนจำนวนมากขึ้นว่า BlockFi อาจประสบกับวิกฤตสภาพคล่อง และเพื่อชี้แจงว่าผมกำลังประสบปัญหาถอนเงินล่าช้าอย่างผิดพลาด ทั้งๆที่ได้ทำการตรวจสอบยืนยัน BockFi KYC / การรักษาความปลอดภัยหลายครั้งรวมถึงภายในเดือนที่แล้วด้วย”