การประชุมที่จัดขึ้นโดยหน่วยกำกับดูแลบริการทางการเงินและคลังของฮ่องกง (FSTB) รวมถึงข้อเสนอจากภาคอุตสาหกรรมและประชาชน เพื่อกำหนดร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งจะนำเสนอต่อสภานิติบัญญัติในปี 2021-2022
หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านและมีผลบังคับใช้ จะทำให้นักลงทุนรายย่อยถูกห้ามทำการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี และอาจทำให้นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องทำการซื้อขายคริปโตผ่านบริการนอกประเทศที่ไม่ได้รับการควบคุมแทน
Henri Arslanian แห่ง PwC บริษัทชั้นนำด้านคริปโตกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Forkast.News “ความผิดหวังที่ใหญ่ที่สุดในระบบนิเวศของคริปโต คือนักลงทุนรายย่อยไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการซื้อขายกับตลาดที่มีการควบคุม”
ตามข้อเสนอทางกฎหมาย หน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกง (FSTB) ได้มอบอำนาจให้ Securities and Futures Commissio (SFC) กำหนดและเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการออกใบอนุญาต VASP สำหรับผู้ให้บริการเกี่ยวกับสินทรัพย์เสมือนได้ตามความจำเป็น และดำเนินการตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้รวมถึงนักลงทุนมืออาชีพเท่านั้น
โดย “นักลงทุนมืออาชีพ” คือ บุคคลหรือองค์กรที่มีพอร์ตมูลค่า 8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีเพียง 7% ของประชากรในพื้นที่เท่านั้น ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ ทำให้อีก 93% ที่เหลือถูกห้ามไม่ให้ซื้อขายคริปโต
“หากเราห้ามพวกเขาทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มที่มีการการควบคุม, การจัดการความเสี่ยง, การปฏิบัติตามกฎระเบียบ, และความปลอดภัยที่เหมาะสม นักลงทุนอาจไปทำการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มอื่นที่มีความเสี่ยงสูงกว่า ผมจึงผิดหวังเล็กน้อยที่ SFC ไม่มีโร้ดแมปที่ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร แม้พวกเขาจะบอกว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงกฎ และเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนรายย่อยในอนาคต” Arslanian กล่าว
ขณะที่คนอื่น ๆ คิดว่ากฎระเบียบเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต และตลาดคริปโตที่กำลังเฟื่องฟูอย่างมากจำเป็นที่จะต้องมีการกำกับดูแล
“ด้วยความตื่นเต้นที่มากเกินไปในตลาดคริปโต ทั้งเหรียญมีม, พวกที่ต้องการแต่จะทำเพื่อผลประโยชน์, รวมถึงขาลงที่ใกล้เข้ามา สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นผลดีต่อตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเอาซะเลย และเป็นการพิสูจน์ว่าตลาดคริปโตจำเป็นที่จะต้องมีข้อแนะนำ และกฎระเบียบที่เหมาะสมเพื่อปกป้องนักลงทุนรวมถึงตลาดคริปโตเองด้วย” Toya Zhang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต AAX กล่าว
โดย Henry Chong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Fusang ตลาดหลักทรัพย์ดิจิทัลในฮ่องกง แสดงความคิดเห็นว่านักลงทุนอาจมองหา “Proxy Crypto” แทนการลงทุนในคริปโตโดยตรง
“มันจะเป็นประโยชน์สำหรับการลงทุนในผลิตภัณฑ์หรือ Proxy ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เช่น การซื้อหุ้นของบริษัทที่ให้บริการหรือลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล อย่าง Tesla หรือ MicroStrategy และอาจรวมถึงกองทุน ETF คริปโตในอนาคต” Chong กล่าว
นอกจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวยังคงเปิดโอกาสให้นักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายคริปโตในฮ่องกงได้ในอนาคต “SFC จะยังคงติดตามตลาดต่อไป และพิจารณาจุดยืนใหม่อีกครั้ง เมื่อตลาดสกุลเงินดิจิทัลเติบโตอย่างเต็มที่ในอนาคต”