Kais Mohammad ชายอายุ 37 ปี จากเมือง Yorba Linda รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี ณ เรือนจำกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการส่งเงิน Bitcoin อย่างผิดกฎหมาย ตามการเปิดเผยของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
บันทึกของศาลชี้แจงว่า Mohammad ซึ่งเป็นอดีตพนักงานธนาคาร ได้ดำเนินธุรกิจของตัวเองที่มีชื่อว่า “Herocoin” ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019 โดยเขาถูกกล่าวหาว่าทำการเข้าพบลูกค้า เพื่อโอนสกุลเงินดิจิทัลของลูกค้าเป็นเงินสด ผ่านตัวเองหรือใช้เครื่อง ATM บิทคอยน์
ตามข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ Mohammad กล่าวว่าได้ใช้เครื่อง ATM บิทคอยน์ จำนวนหลายเครื่องที่ไม่ต้องระบุข้อมูลที่จำเป็นสำหรับโปรโตคอลต่อต้านการฟอกเงิน
โดย Mohammad ทราบว่าบางครั้งเงินของลูกค้าได้มาด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย หรือถูกใช้ในกิจกรรม Dark Web แต่ไม่ได้รายงานรายละเอียดดังกล่าว และธุรกิจของเขาเองก็ไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจอย่างถูกต้องกับ เครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐฯ หรือ FinCEN ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
Mohammad ถูกกล่าวหาว่าธุรกิจของเขาได้ทำการแลกเปลี่ยนเป็นเงินมูลค่ากว่า 15 ล้านดอลลาร์ ถึง 25 ล้านดอลลาร์ และจำเป็นต้องยกเลิกการใช้งานตู้ ATM จำนวน 17 เครื่อง, บิทคอยน์ 18.4 BTC และ Ethereum 222.5 ETH ในระหว่างการสอบสวน
ตู้ ATM บิทคอยน์กำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในประเทศสหรัฐฯ โดยปัจจุบันมีตู้ ATM มากกว่า 20,000 เครื่องที่มีการใช้งานอยู่ในสหรัฐฯ
ตามข้อมูลจากสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐฯ หรือ DEA ได้รายงานว่ามีการใช้ตู้ ATM ดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ในการฟอกเงินกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในช่วงการระบาดใหญ่ของโรค COVID-19 แต่อย่างไรก็ตามตู้ ATM เหล่านี้ส่วนใหญ่มักถูกซ่อนจากสายตาของสาธารณะ