เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน Samia Suluhu Hassan ประธานาธิบดีของแทนซาเนีย ได้เรียกร้องให้ธนาคารกลางของประเทศเริ่มศึกษาเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี โดยเธอได้เน้นย้ำถึงผลกระทบที่คริปโตเคอร์เรนซีกำลังมีต่อการเงินโลก
“เราได้เป็นสักขีพยานของนวัตกรรมใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นผ่านอินเทอร์เน็ต” Hassan กล่าว
นอกจากนี้ Hassan ยังได้เน้นย้ำถึงการขาดการยอมรับและพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก
“ทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงแทนซาเนีย ยังไม่ได้มีการยอมรับหรือใช้แนวทางเหล่านี้ ข้อเรียกร้องของฉันที่มีต่อธนาคารกลาง คือคุณควรเริ่มทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น”
ความเห็นดังกล่าวเป็นผลมาจากการยอมรับบิทคอยน์ในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ที่ผลักดันให้มีการนำคริปโตมาใช้ในเศรษฐกิจ รวมถึงประเทศเอลซัลวาดอร์ที่ยอมรับให้บิทคอยน์สามารถใช้หนี้ได้ตามกฎหมาย
ขณะที่รัฐบาลในทวีปแอฟริกามีการรับรู้และสนับสนุนเศรษฐกิจคริปโตที่ค่อนข้างช้า แต่ภูมิภาคนี้กลับเป็นศูนย์กลางสำหรับการซื้อขายบิทคอยน์แบบ Peer-to-Peer (P2P) มานานหลายปีแล้ว
จากข้อมูลของ Useful Tulips ระบุว่าภูมิภาคแอฟริกาใต้ซาฮารา เป็นภูมิภาคที่มีการซื้อขายบิทคอยน์แบบ P2P คิดเป็นมูลค่ากว่า 16.5 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองลงมาจากทวีปอเมริกาเหนือ
โดยประเทศไนจีเรียมีการซื้อขาย BTC แบบ P2P ตามหลังประเทศสหรัฐฯ มาเป็นอันดับสองด้วยมูลค่ากว่า 8.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นปริมาณครึ่งหนึ่งของภูมิภาค และ ขณะที่ประเทศเคนยามีมูลค่าการซื้อขายแบบ P2P รายสัปดาห์มากกว่า 3 ล้านดอลลาร์จัดเป็นอันดับสองในทวีปแอฟริกา รองลงมาคือกานามูลค่า 2 ล้านดอลลาร์ และแอฟริกาใต้ 1.6 ล้านดอลลาร์
ประเทศแทนซาเนียอยู่ในอันดับที่เจ็ดของภูมิภาคแอฟริกาด้วยมูลค่าการซื้อขายเกือบ 90,000 ดอลลาร์ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา