Colin Wu นักข่าวทางด้านคริปโตชาวจีน ได้แชร์ชาร์ตที่แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นล่าสุดของหุ้น MicroStrategy และการลดลงของราคาหุ้น Tesla และ Coinbase
หาก MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีกจากการถือครองในปัจจุบัน นี่อาจกลายเป็นกองทุน Bitcoin ETF ไปแล้ว นักข่าวกล่าวเสริมว่า หากราคาหุ้น MSTR ปรับตัวต่ำลงในระดับหนึ่ง แรงกดดันต่อหุ้นกู้แปลงสภาพ (convertible bonds) อาจกลายเป็นขนาดมหึมา
ความตั้งใจซื้อ Bitcoin ส่งผลให้หุ้น MSTR สูงขึ้น ในขณะที่ TSLA ลดลง
ตารางราคาหุ้นที่ Colin Wu แชร์แสดงให้เห็นว่า หุ้น MSTR เพิ่มขึ้น 5.36% ในขณะที่ราคาหุ้น Tesla และ Coinbase ซึ่งเป็นบริษัทสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ และ Square กลับปรับตัวลง
หุ้น COIN ลดลง 2.88 เปอร์เซ็นต์ ส่วน Square ของ Jack Dorsey ร่วงลง 1.39 เปอร์เซ็นต์
Michael Saylor เพิ่งประกาศว่า บริษัทธุรกิจซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ของเขาตั้งใจที่จะขายหุ้นมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม
ราคาหุ้น Tesla ลดลง หลังจากที่ทำจุดสูงสุดล่าสุดที่ 630.8 ดอลลาร์ต่อหุ้นไปเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ราคา TSLA ลดลงคือการที่บริษัทหยุดการชำระเงินด้วย Bitcoin สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของเขา
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 617.9 ดอลลาร์ หลังจากนั้นราคาก็ตกลงมาอยู่ที่ 597.2 ดอลลาร์
แรงกดดันของ MicroStrategy ต่อหุ้นกู้แปลงสภาพอาจเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันบริษัท MicroStrategy ได้ถือครอง Bitcoin กว่า 92,079 BTC ไว้ในคลังของบริษัท ซึ่งเป็นมูลค่า fiat currency ประมาณ 3,609,496,800 ดอลลาร์
Wu สันนิษฐานว่า หากบริษัทซื้อ BTC มากขึ้น บริษัทจะกลายเป็นกองทุน BTC ETF อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปีนี้ Michael Saylor ได้ปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว
เขาอธิบายว่า Bitcoin ไม่ใช่หลักทรัพย์และ IC (บริษัทการลงทุน) หรือกองทุน ETF/ETP
นักข่าวยังเชื่อว่า หากหุ้น MSTR ลดลงต่ำกว่า 397.99 ดอลลาร์ แรงกดดันต่อหุ้นกู้แปลงสภาพอาจเปลี่ยนไปอย่างมหาศาล เนื่องจากจำนวนอัตราดอกเบี้ยต่อปี ซึ่งทางบริษัทมีต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายอยู่ 6.125% ต่อปี ซึ่งเป็นต้นทุนดอกเบี้ยถึง 30.625 ล้านดอลลาห์ต่อปี หากราคาหุ้นของ MSTR ลดลง ตัวอย่างเช่น หากราคาลดลงต่ำกว่า 397.99 ดอลลาร์ แรงกดดันต่อพันธบัตรแปลงสภาพที่เผชิญอยู่จะเป็นมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว
ที่มา: U.Today