เมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิเคราะห์ชื่อดัง PlanB ได้ทำโพลล์สำรวจผู้ติดตามกว่า 586,000 คนบนทวีตของเขาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ราคา Bitcoin จะพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ภายในช่วงสิ้นปีนี้ และดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะแตกต่างกันกับโพลล์สำรวจของเดือนมีนาคมอย่างสิ้นเชิง
ที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นก็คือ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ล้วนเชื่อว่าราคา Bitcoin จะไปไม่ถึงระดับ $100,000 ภายในสิ้นปี โดยจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามได้เพิ่มขึ้นจาก 16% ในเดือนมีนาคมไปเป็น 41% ในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้นักลงทุนที่เชื่อว่าราคา bitcoin จะพุ่งแตะระดับ $288,000 ยังลดลงต่ำกว่า 50% อีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่าโมเดลทำนายราคา Bitcoin (Stock-to-flow) ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักวิเคราะห์ PlanB นั้นแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ที่สำคัญทางสถิติระหว่างความขาดแคลนของสินทรัพย์ จะส่งผลทำให้ราคา bitcoin ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยการคาดการณ์ล่าสุดของโมเดลนี้ชี้ให้เห็นว่า ราคาของ bitcoin จะอยู่ที่ระดับ 288,000 ดอลลาร์ก่อนถึงเดือนธันวาคม 2021
ถึงเวลาสำหรับแผน C แล้วหรือยัง ?
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นต่างจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากตลาดคริปโตได้สั่นคลอนจากข่าว FUD ด้านพลังงานของ CEO Tesla นาย Elon Musk รวมถึงข่าวแบนเหมืองขุด Bitcoin จีน ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะฟื้นตัวกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง
ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ล้วนมีส่วนทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลดลงมากกว่า 50% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน และเมื่อวานนี้ราคา Bitcoin ได้ร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ระดับต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ 32,450 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียนรายงาน
ในขณะที่ผู้คนในชุมชนคริปโตส่วนหนึ่งเชื่อว่าโมเดล Stock to flow ของนาย PlanB ได้ล้มเหลวลงอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่ในขณะเดียวผู้คนส่วนหนึ่งกลับให้ความเห็นว่า พวกเขาจะดำเนินการถือหรือ HODL Bitcoin ต่อไปจนกว่าราคาจะพุ่งแตะ 5 แสนดอลลาร์และพวกเขาจะไม่กล่าวโทษนาย PlanB ให้รับผิดชอบ แม้ว่าราคา BTC จะร่วงลงเหลือศูนย์ก็ตาม