นาย Alex de Vries ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Digiconomist คาดการณ์ว่าในระยะยาว หาก Bitcoin มีมูลค่าอยู่ที่ $500,000 มันจะนำมาซึ่งต้นทุนด้านการขุดที่เพิ่มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
Bitcoin ฟื้นตัวจากข่าว FUD
นับตั้งแต่ราคาได้ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดที่ 29,800 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม Bitcoin ก็ได้ฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากตลาดกระทิงปิดฉากลงด้วยความหวังว่าจะทดสอบแนวต้านสำคัญ $50,000 ซึ่งเป็นแนวต้านราคาทางจิตวิทยา
ด้วยเหตุนี้ เมื่อพูดถึงโอกาสที่ราคาสิ้นปีจะอยู่ที่ $100,000 ดูเหมือนจะไม่ใช่เพียงแค่ความฝันอีกต่อไปสำหรับนักวิเคราะห์อย่างนาย Willy Woo
อันที่จริง การเคลื่อนไหวราคาของ Bitcoin ในช่วงปลายเดือนทำให้เกิดการมองโลกในแง่ดีขึ้นอย่างมาก ซึ่งนาย Willy Woo เชื่อว่าเป้าหมายราคา Bitcoin จะสามารถไปถึงระดับ $ 300,000 ได้ในช่วงสิ้นปี ไปจนถึงความเชื่อที่ราคาจะสูงสุดถึง 9.5 ล้านดอลลาร์ของนาย Dan Held ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หากราคาของ Bitcoin เข้าใกล้ระดับราคาที่สูงเสียดฟ้าเหล่านี้นาย De Vries และนักเศรษฐศาสตร์คนอื่น ๆ เกรงว่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของเครือข่ายจะขยายตัวไปสู่ระดับที่เลวร้ายอย่างที่ไม่มีมาก่อน
จากการคำนวณของ de Vries พบว่าหากราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับ $500,000 เครือข่ายจะผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาอยู่ที่ 617 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นจำนวนที่มากกว่าประเทศใหญ่ ๆ ประเทศหนึ่งเสียอีก
“ปริมาณดังกล่าวมากเกินกว่าการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของออสเตรเลีย 56%, บราซิล 40%, แอฟริกาใต้ 40% และเม็กซิโก 33%”