Visa บริษัทบัตรเครดิตระดับโลกได้ซื้อ CryptoPunk 7610 หรือ NFT การ์ดสะสมชื่อดังในราคาประมาณ 150,000 ดอลลาร์ เมื่อเริ่มเข้าสู่ตลาดซื้อขายศิลปะ NFT ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น NFT แบบดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 2560 โดย Larva Labs โดยเป็นศิลปะพิกเซลที่มีบุคลิกในแต่ละตัวแตกต่างกันออกไป
ที่ผ่านมา Visa ก็เป็นเจ้าของผลงานจากคอลเลกชันวินเทจหลายชิ้น รวมถึงสนับมือ busters, บัตรเครดิตกระดาษในยุคแรก และอุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึกธุรกรรมบัตรเครดิตก่อนจะถือกำเนิดระบบ Point Of Sale system (POS) หรือระบบขายหน้าร้านที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เหตุผลที่ Cuy Sheffield ผู้บริหาร Visa ได้เพิ่ม CryptoPunk ลงในคอลเลกชันนั่นเป็นเพราะว่าเขาเปรียบศิลปะชิ้นนี้เป็นเหมือนผู้บุกเบิกเทคโนโลยี NFT รวมถึงตลาดการค้า NFT อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Visa ถึงต้องการเป็นเจ้าของ CryptoPunk ถึงเพียงนี้
อีกทั้งเขายังรู้สึกว่าศิลปะชิ้นนี้จะเป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมในคอลเลกชันวินเทจของเขาที่สามารถบ่งบอกถึงตลาดการค้าในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้
Sheffield เปิดเผยว่า Visa ได้ทำงานร่วมกับ Anchorage Digital เมื่อต้นปีที่แล้วเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการชำระเงินด้วย USDC บน Ethereum และปัจจุบันก็ได้ร่วมมือกันเพื่อซื้อ CryptoPunk ซึ่งหมายความว่า Anchorage จะอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมและดูแล NFT ให้กับ Visa ในอนาคต
Visa จะบุกตลาด NFT อย่างจริงจัง?
Visa เชื่อว่า NFT จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของการค้าขาย รวมถึงสามารถช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางถึงเล็กและศิลปินหน้าใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
Sheffield เปรียบเทียบ NFT กับ e-commerce ในยุคแรก ๆ โดยกล่าวว่า e-commerce ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถขายออนไลน์และเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกได้ แต่พวกเขายังต้องผลิตและจัดส่งสินค้าที่จับต้องได้ ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายในการสต็อกสินค้าสูง ดังนั้นการที่ NFT อนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถควบคุมบล็อกเชนเพื่อสร้างสินค้าดิจิทัลและสามารถจัดส่งไปยังกระเป่าเงิน crypto ได้ทันทีในทุกมุมโลกนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีมากกว่า ซึ่งเราสามารถจินตนาการถึงอนาคตที่ cryptocurrency จะมีความสำคัญเท่ากับการส่งของทางไปรษณีย์
Visa ได้รับความสนใจค่อนข้างมากจากผู้ค้า แบรนด์ และแพลตฟอร์มที่ต้องการเข้าร่วม NFT โดยตอนนี้เรามุ่งมั่นที่จะเริ่มช่วยเหลือลูกค้าในแนวทางต่าง ๆ ที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมใน NFT ได้
Visa ยังได้เผยแพร่เอกสารรายงานเกี่ยวกับ NFTเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ เข้าใจว่าพวกเขาสามารถรวม NFT เข้ากับแพลตฟอร์มของพวกเขาได้อย่างไร และ Visa สามารถช่วยได้อย่างไร
อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการอธิบายให้กับบุคคลทั่วไปและลูกค้าของเขาเข้าใจถึงวิธีการเข้าร่วม NFT ซึ่งถือเป็นบทบาทหลักของ Visa หลังจากจัดตั้งทีมพัฒนา crypto ในปี 2562 ที่ต้องการช่วยผู้ค้าและผู้ใช้งานยอมรับ NFT เหมือนกับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเคยสร้างขึ้นมาในอดีต
อย่างไรก็ตามการที่ Visa ต้องการบุกตลาด NFT อย่างจริงจังนั้นเปรียบเสมือนกับโลกของเราได้ยอมรับ cryptocurrrency ไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญด้านการชำระเงินและตลาดการค้าขายในอนาคต