เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา Bitkub เว็บเทรดคริปโตชั้นนำของไทยได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่บน Bitkub NEXT ซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญ KUB มาล็อกบนแพลตฟอร์มได้แล้ว เพื่อรับ Bonus ต่าง ๆ โดยมีขั้นตอนการล็อกและ Redeem เหรียญ ดังภาพด้านล่างนี้
สำหรับการล็อกเหรียญในฟีเจอร์ Bonus Kub นั้นผู้ใช้สามารถเลือกรับผลตอบแทนจากการล็อกเหรียญได้ทั้งหมด 2 สกุลเงินด้วยกันคือ KBTC และ KUSDT
ในส่วนของผลตอบแทนนั้น หลังจากที่ทางผู้เขียนได้ทดสอบใช้งาน เราจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนของทั้ง 2 เหรียญ ในขั้นต่ำ 30 วันนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 12% และ 1 ปีอยู่ที่ 22% โดยผลตอบแทนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการล็อกเหรียญ
การประกาศฟีเจอร์ใหม่ในวันนี้ ดูเหมือนว่าจะส่งผลให้ราคาของเหรียญ Kub coin ดีดตัวพุ่งขึ้นกว่า 4% แตะจุดสูงสุดระหว่างวันที่เกือบ 25.97 บาท จาก 25.46 บาท ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ในขณะที่เขียนรายงานอยู่นี้ราคา Kub coin มีการซื้อขายกันอยู่ที่ระดับ 25.71 บาท ลดลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดระหว่างวัน
การเปิดตัวฟีเจอร์ในครั้งนี้คาดว่ามีจุดประสงค์เพื่อช่วยลดแรงกดดันในการขายเหรียญ Kub ในตลาดให้น้อยลงและผลักดันให้เกิดกรณีการใช้งานจริงของเหรียญมากขึ้น ซึ่งสิ่งน่าจะส่งผลดีต่อราคาเหรียญในระยะยาว
เกี่ยวกับ Bitkub NEXT
Bitkub Next คือกระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets Wallet) ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จํากัด และ เปรียบเสมือนหัวใจสําคัญในการใช้งาน dApp และร่วมกิจกรรมต่างๆบน Bitkub Chain โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ https://app.bitkubnext.com/ และใช้งานผ่าน Application ที่จะเปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Apple App Store และ Google Play Store ในเร็ว ๆ นี้
Bitkub NEXT มีคุณสมบัติในด้านการทําธุรกรรมและเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น สกุลเงินดิจิทัล ( Cryptocurrency) หรือ Non-Fungible Token (NFTs) และสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่ไม่มีตัวกลาง (Decentralized Application หรือ dApp) เช่น NFTs Marketplace, DeFi เป็นต้น บนเครือข่าย Bitkub Chain ได้ ปัจจุบันผู้ใช้สามารถใช้ Bitkub NEXT ในการสแกน QR Code เพื่อเก็บสะสม Fans Token รวมไปถึง NFTs ทีอยู่บน Bitkub Chain และ สามารถฝากเหรียญ Bitkub Coin (KUB) จากกระดานเทรด Bitkub Exchange ่ มายัง Bitkub NEXT ได้ ทั้งนี้ได้มีการพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างทั้ง 2 แอปพลิเคชันเพื่อให้สามารถเก็บสกุลเงิน ดิจิทัล (ที่รองรับ) และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้ โดยจะเริ่มเปิดใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป