การต่อสู้คดีความระหว่างบริษัทผู้สร้างเหรียญ XRP อย่าง Ripple กับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ นั้นทำให้ CEO นาย Brad Garlinghouse ออกมาแสดงความเห็นส่วนตัวล่าสุด
โดยเขาได้กล่าวว่าหากจบคดีนี้ไปในอนาคต จะไม่มีบริษัทด้านคริปโตไหนที่ปลอดภัยจากความไม่ชัดเจนทางกฎหมายอีกต่อไป
“สิ่งนี้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น คดีของ SEC ไม่ได้เกี่ยวกับ Ripple เท่านั้น แต่เกี่ยวกับ ‘… มาตรฐานข้อบังคับและระเบียบที่ไม่สามารถเป็นไปได้’ ผ่านกฎระเบียบที่จะสามารถสร้างผลกระทบต่อนวัตกรรมด้านคริปโต ใครก็แล้วแต่สามารถที่จะเป็นเป้าหมายต่อไปได้”
การมาของ Ripple
ความเห็นของ Garlinghouse เป็นการตอบสนองต่อบทความของ Forbes เรื่อง “The Crypto Uprising The SEC Did’t See Coming”
ตามชื่อเรื่อง ผู้เขียน Roslyn Layton ให้รายละเอียดว่าคดีความของ SEC ต่อ Ripple ส่งผลให้เกิด “ความเสียหายที่ย้อนกลับไปยังตัวผู้ฟ้อง” ที่น้อยคนนักคาดหวัง อย่างน้อยที่สุดก็คือ SEC เองทั้งหมด
“ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดคลื่นสึนามิการฟ้องร้องจากนักลงทุนคริปโตบนโซเชียล ที่คับแค้นใจจากความรู้สึกที่ถูกทรยศโดยหน่วยงานรัฐบาลที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา”
Layton กล่าวว่าผลที่ตามมาของคดีนี้ว่ามันทำให้ความน่าเชื่อถือของสำนักงาน ก.ล.ต. พังทลายลงในหมู่ชุมชนนักลงทุน crypto
เธอเสริมว่า “กระแสตีกลับ” นี้ไม่ได้เกี่ยวกับการให้การสนับสนุน Ripple แต่เป็นกลุ่มคนที่ไม่ชอบความไม่ชัดเจนทางกฎหมาย และรวมถึงความยุติธรรมในการบังคับใช้กฎหมาย ที่ตอนนี้กำลังเกิดกับ Ripple
การวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติมเกิดขึ้นจากการที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขาดการมองการณ์ไกลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับผลที่ตามมาจากการกระทำของพวกเขา โดยเฉพาะในแง่ของการกำกับดูแลธุรกิจด้านคริปโตใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“การจลาจลต่อต้าน SEC นั้นไม่ได้ถือเป็นการสนับสนุน Ripple โดยเฉพาะ แต่เป็นการต่อต้านกฎระเบียบโดยและการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความสับสนต่อตลาดโดยเจตนา ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่พอใจและผลักดันนักพัฒนาให้ออกไปต่างประเทศ”
Garlinghouse ยืนยันเสมอว่าคดีดังกล่าวเป็นการโจมตีอุตสาหกรรม crypto ของสหรัฐฯ เมื่อคดีนี้ดำเนินไปเรื่อย ๆ คำตอบเหล่านี้ก็จะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
ก.ล.ต. ได้รับชัยชนะ 1 ครั้งในการสู้รบ
เมื่อเดือนที่แล้ว ก.ล.ต. ได้ยื่นคำร้องเพื่อบังคับให้มีการนำเอาข้อมูลเกี่ยวกับการสื่อสารของ Ripple บนแพลตฟอร์มการส่งข้อความ Slack มาเปิดเผยในชั้นศาล
Ripple คัดค้านเรื่องนี้เนื่องจากมีปัญหาในการรวบรวมข้อมูล บวกกับค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น (ประมาณ 900,000 ดอลลาร์) ในการทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามในวันพุธที่ผ่านมาทางศาลได้ให้ญัตติของ ก.ล.ต. และสั่งให้ Ripple ทำการค้นหาข้อความใน Slack ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล 22 คนที่ระบุโดย ก.ล.ต.