ไม่กี่วันหลังจากเอลซัลวาดอร์กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่รับ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้คนหลาย ๆ คน โดยล่าสุดในพอดคาสต์ของ New York Times ได้มีการพูดคุยกับนาง Ephrat Livni เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศบังคับใช้กฎหมาย Bitcoin ของประธานาธิบดี Nayib Bukele
เธอกล่าวว่าการนำ Bitcoin ไปใช้อย่างถูกกฎหมาย ถือเป็นโครงการ “ที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้” เมื่อคนส่วนใหญ่ในประเทศไม่มีบัญชีธนาคาร โดยมีการคาดการณ์ว่า 71% ของประชากรในเอลซัลวาดอร์ไม่มีบัญชีธนาคาร ดังนั้นการทำแบบนี้จึงถือเป็นการแก้ปัญหาที่ดี
อย่างไรก็ตามนักเศรษฐศาสตร์ Steve Hanke อธิบายถึง “ความโกลาหลของสกุลเงิน” ในประเทศ โดยชาวเอลซัลวาดอร์ 80% ไม่ทราบถึงมูลค่าของ Bitcoin
ในขณะที่ Bitcoin และ DeFi นั้นมีประโยชน์หลายอย่างแต่ Livni แย้งว่าการใช้ Bitcoin เพื่อ “ปลดแอกประชาชนทางเศรษฐกิจ” ในเอลซัลวาดอร์นั้นถือเป็นเรื่องที่ยังต้องพิสูจน์กันอีก เนื่องจากว่า Bitcoin นั้นยังไม่เคยถูกใช้งานกันอย่างจริงจังในมหภาคมาก่อน
เป็นที่ทราบกันดีว่าสภาคองเกรสของเอลซัลวาดอร์ได้ผ่านร่างกฎหมายโดยมีการอภิปรายเพียงเล็กน้อยในการประชุมทางวิดีโอเมื่อเดือนมิถุนายน ดังนั้นจึงเป็นการตัดสินใจแบบเผด็จการ นาง Livni กล่าวย้ำว่า
“มีปัญหาสองสามประการในกฎหมาย Bitcoin แม้ว่านั่นจะเป็นมุมมองจากผู้ชอบ Bitcoin ในสหรัฐอเมริกาก็ตาม”
นาย Jerry Brito แห่ง Coin Center ได้รีทวีตข้อความของนักข่าว Naomi Brockwell ว่า
“ผมรักบิตคอยน์ แต่ผมจะไม่เชียร์ระบบการเงินที่บังคับใช้ผ่านการคุกคามและความรุนแรง”
Livni อธิบายถึงปัญหาของกฎหมายของ Bitcoin
“พวกเขานำเงินที่มีความเป็น decentralized และไม่ขึ้นกับรัฐบาล มาทำให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมายโดยรัฐบาล และบังคับให้ใช้มัน”
นอกเหนือจากข้อโต้แย้งเชิงปรัชญาแล้ว Livni ยังได้พูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ในทางปฏิบัติ เช่น ความผันผวนของราคาเกี่ยวกับการยอมรับ Bitcoin เธอแย้งว่า “ประเทศมีความเสี่ยง” ในระดับที่ใหญ่กว่าที่นักลงทุนจะรับได้ เห็นได้ชัดว่าดัชนีความผันผวนของ Bitcoin อยู่เหนือ 100%
แต่โครงการทำให้ Bitcoin ถูกกฎหมายจะประสบความสำเร็จหรือไม่? ปัจจุบันยังไม่มีการตัดสินว่ากฎหมายดังกล่าวจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว ตามที่ Livni กล่าว
“บางทีการโต้แย้งจากทั้งสองฝั่งจะมีขึ้นมาพร้อม ๆ กัน”