เมื่อเร็ว ๆ นี้เทศบาลท้องถิ่นในมณฑลของจีนได้ร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศจีนเพื่อแก้ไขสถานการณ์การขุด crypto และการค้าสกุลเงินดิจิทัลภายในประเทศ โดยต้องการเข้าไปตรวจสอบอย่างเข้มงวดกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขุด crypto และ การใช้ประโยชน์จาก computing power ในการขุดคริปโทเคอร์เรนซี่
ทั้งนี้บริษัทที่รัฐเป็นเจ้าของจะต้องดำเนินการตามคำสั่งที่ออกใหม่ และมหาวิทยาลัยและสถาบันทางวิทยาศาสตร์จะบังคับด้วยคำสั่งใหม่เช่นเดียวกันเพื่อป้องกันกิจกรรมการขุด ทั้งนี้สถาบันทางวิทยาศาสตร์จะต้องรายงานกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับระบบประมวลผลทั้งหมด
เหตุผลหลักของข้อจำกัดการขุดต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในมณฑลของจีน คือ อุตสาหกรรรมการขุดสินทรัพย์ดิจิทัลและระดับการใช้พลังงาน ซึ่งเกิดขึ้นจากความไม่สอดคล้องกันของปริมาณคาร์บอนและอุตสาหกรรมการขุด ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยทั่วไป
นอกจากประเด็นดังกล่าวแล้วยังมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ถือเป็นภัยคุกคามทางการเงินระดับประเทศอีกด้วย เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี่เป็นระบบแบบ decentralized ทำให้ไม่มีการควบคุมอย่างชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแบกรับความเสี่ยงสูงและทำงานกับระบบที่เรียกได้ว่าเป็น “พื้นที่สีเทา”
คำสั่งดังกล่าวยังเสนอให้เสริมสร้างความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ การให้ข้อมูลและการธุรกรรมทางการเงิน โดยจะรวบรวมความคิดเห็นของประชาชนและรายงานเกี่ยวกับการขุด crypto เพื่ออภิปรายและตัดสินปัญหาที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป หน่วยงานต่าง ๆ จะเริ่มติดตามบริษัทและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขุด crypto หากพบกิจกรรมการขุดใด ๆ จะถูกแบนออกจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและแม้แต่ไฟฟ้า นอกจากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามยึดธุรกรรมที่ผิดกฎหมายทั้งหมด