อัตราแรงขุดของ Bitcoin บนเครือข่าย ดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวกลับมาแล้ว โดยคาดว่าเป็นผลมาจากนักขุดจากในประเทศจีนที่เริ่มกลับมาเดินเครื่องขุดอีกครั้ง หลังอพยพย้ายเครื่องขุดออกนอกประเทศไปยังประเทศอื่น ๆ ตามมาตรการกวาดล้างของรัฐบาล
ตามรายงานของผู้ให้บริการข้อมูลบนเครือข่าย Glassnode แสดงให้เห็นว่า อัตราแรงขุดของ Bitcoin hashrate ส่วนใหญ่เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้ว หลังจากที่อัตราแรงขุดบนเครือข่ายกว่า 50% ได้มีการออฟไลน์หายไปในเดือนพฤษภาคม
Glassnode ระบุว่า ทั้งอัตราแฮชและค่าความยากในการขุด สามารถ “ฟื้นตัวกลับมาได้” อย่างมั่งคง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมมีรายงานว่า ค่าความยากลำบากในการขุด Bitcoin ได้ร่วงลดลงไปกว่า 28%
ค่าความยากในการขุดได้ฟื้นตัวกลับมากว่า 39% นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมและเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับก่อนที่จะมีการปราบปรามคริปโตของรัฐบาลจีน โดยคาดว่าตัวเลขส่วนใหญ่ได้มีการปรับตัวขึ้นเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้
Glassnode ยังรายงานด้วยว่า Difficulty Ribbon ซึ่งเป็นตัวชี้วัดค่าความยากลำบากในการขุด Bitcoin บนเครือข่ายได้เห็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปี
แม้ว่าตัวเลข Block reward จะลดลงกว่าครึ่งนึงจาก 12.5 BTC เหลือเพียง 6.25 BTC นับตั้งแต่เหตุการณ์ Halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 แต่ผลกำไรที่ได้จากการขุดก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้น
Glassnode ตั้งข้อสังเกตว่า ผลกำไรจากการขุดในปัจจุบันที่ระดับ 40 ล้านดอลลาร์ต่อวันนั้นคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 275% นับตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 630% เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน 2020 ที่ระหว่าง 6 ล้านดอลลาร์ถึง 8 ล้านดอลลาร์
“แม้จะมีการเหตุการณ์มากมายที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมการขุดคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการปรับฐานราคาครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้ง รวมถึงเหตุการณ์ halving ในเดือนพฤษภาคม 2020 แต่ผลกำไรที่ได้จากการขุด ก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างแรงจูงใจให้ตลาดมีปรับตัว เปลี่ยนแปลง และมีการฟื้นตัวกลับมาได้อย่างสมบูรณ์” รายงานกล่าว
