การเติบโตของโปรโตคอลเครือข่าย Layer 2 ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่สำคัญที่สุดในปีนี้ เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นของการเงินรูปแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และโทเค็นที่ไม่สามารถมีซ้ำกันได้ (NFT) ที่ผลักดันให้ต้นทุนค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum ( ETH ) เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เครือข่าย Polygon ได้กลายเป็นหนึ่งในคู่แข่งอันดับต้น ๆ ของ Etereum ในแง่ของการแข่งขันสำหรับโซลูชันการปรับขนาด layer-2 ที่มีความโดดเด่น และแพลตฟอร์ม QuickSwap ของโปรเจกต์ก็ถือเป็นหนึ่งใน Uniswap โคลนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเช่นกัน
แพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมในช่วงแรก แต่เมื่อแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Arbitrum และ Optimism ปรากฏตัวขึ้น การพูดถึงประสิทธิภาพของ Polygon ก็เริ่มลดน้อยลง โดยข้อมูลจาก Flipside Crypto แสดงให้เห็นว่า ความสามารถในเรื่องของต้นทุนค่าธรรมเนียมราคาถูกบนเครือข่าย Polygon ได้มอบผลประโยชน์โดยตรงให้กับบอท Arbitrage ที่ได้มีการส่งธุรกรรม Spam จำนวนมากเพื่อเข้าโจมตีเครือข่าย และทำรายได้กว่า 800,000 ดอลลาร์ ในระยะเวลาน้อยกว่า 4 เดือน
ตามข้อมูลของ Flipside Crypto การโจมตีดังกล่าวนี้เริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม และ ณ จุด ๆ หนึ่งในเดือนมิถุนายน ธุรกรรมบนเครือข่าย Polygon ได้พุ่งสูงถึง 8 ล้านธุรกรรมต่อวัน ในขณะที่จำนวนธุรกรรมสูงสุดบนเครือข่ายของ Ethereum อยู่ที่ 1.2 ล้านธุรกรรมต่อวันเท่านั้น
ข้อมูลที่พบใน Polygon forum บ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้โจมตีเพิ่มวอลุ่มการทำธุรกรรมมากถึง 90% ด้วยการเติมเต็มบล็อกแต่ละบล็อกด้วย “ธุรกรรม spam” ในขณะที่พวกเขาเสียค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเพียงแค่ 0.02 MATIC เท่านั้น ในการทำธุรกรรม Spam แต่ละบล็อก หรือคิดเป็นต้นทุนประมาณ 1,000 ดอลลาร์ที่ใช้สำหรับการ Spam บล็อกตลอดทั้งวัน
ข้อมูลเชิงลิกพบว่า ประมาณ 30% ของจำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่ายนั้นล้วนมาจากสัญญาสองประเภท ที่ถูกกำหนดให้เป็นบอทเก็งกำไรในการส่งธุรกรรมนับพันไปยังการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX)
บอททำเงินได้เฉลี่ยวันละ 6,800 ดอลลาร์
ตลอดระยะเวลาในช่วง 120 วันที่ผ่านมา บอทสามารถเปลี่ยนเงินทุนจาก 14 Eth ให้กลายเป็น 218.5 Eth ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 813,694 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นกำไรเฉลี่ยต่อวันประมาณ 6,800 ดอลลาร์ (กำไรก่อนหักต้นทุนค่าธรรมเนียมธุรกรรม)
ในการตอบสนองต่อการโจมตีของเหล่า Spamer นั้นทีมงานที่อยู่เบื้องหลังโปรเจกต์ Polygon ได้ตัดสินใจเพิ่มต้นทุนค่าธรรมเนียมของการทำธุรกรรมขั้นต่ำจาก 1 gwei ไปเป็น 30 gwei เพื่อต่อสู้กับธุรกรรมสแปมและปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย
ซึ่งดูเหมือนว่าการตอบสนองในครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จเป็นอย่าง เห็นได้จากจำนวนธุรกรรมรายวันบนเครือข่ายนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นผลมาจากต้นทุนที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมสแปมต่อ;yoที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์ อ้างอิงตามข้อมูลของ Delphi Digital
ข้อมูลบนเครือข่ายแสดงให้เห็นว่า ธุรกรรมสแปมได้ลดลงจาก 2 ล้านรายการเหลือ 500,000 รายการต่อวัน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงกว่า 75%