กรรมการผู้จัดการของ Goldman Sachs ได้กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสามารถผลักดันราคา Ethereum (ETH) ให้อยู่ที่ 8,000 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปี 2564 โดยธนาคารดังกล่าวได้เข้ามาลงทุนกับโทเคน ETH และเชื่อว่าสามารถเพิ่มมูลค่า USD ได้เกือบสองเท่าในช่วงสองเดือนที่เหลือของปี 2564
ทั้งนี้ Bernhard Rzymelka กรรมการผู้จัดการของสถาบันทางการเงินให้เหตุผลกับการคาดการณ์ความสัมพันธ์ระหว่าง cryptocurrency และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกว่าพวกมันมีผลต่อสัดส่วนโดยตรงระหว่างกันโดยตรง ซึ่งสังเกตเห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
Ethereum สามารถเพิ่มเป็น 8,000 ดอลลาร์ได้หรือไม่?
ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารได้คาดการณ์โดยให้รายละเอียดว่าเหตุใด ETH จึงสามารถทำราคาสูงถึง 8,000 ดอลลาร์ได้ภายในปีถัดไป โดยเขาพูดตามการซื้อขาย cryptocurrency เทียบกับจุดคุ้มทุนของเงินเฟ้อตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งเขายืนยันว่าอัตราเงินเพ้อที่สูงขึ้นส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแน่นอนโดยเฉพาะ ETH
Rzymelka ร่างแผนภูมิด้วยดัชนี Bloomberg Galaxy Crypto เทียบกับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติของวัฎจักรที่เป็นสินทรัพย์
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 4,477 ดอลลาร์แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ Goldman Sachs ยังคงยืนยันคำเดิมว่าในอีกสองเดือน ETH จะทำราคาสูงอย่างแน่นอน
Rzymelka ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แผนภูมิ Ethereum ยังคงสอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างดี และยังคงได้รับประโยชน์จากอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้งของ Paypal ยังเชื่อว่าราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลพุ่งสูงขึ้นเป็นการบ่งบอกถึงปัญหาทางการเงินของโลกนั่นหมายความว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะวิกฤติและธนาคารกลางกำลังตกอยู่ในช่วงล้มละลายอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ดูเหมือนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับโครงการบล็อกเชนของ Vitalik Buterin และสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม โดยหากย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคมนักวิเคราะห์จากธนาคารคาดการณ์ว่า ETH จะกลายเป็นตัวเก็บมูลค่าที่ดีกว่า BTC