เมื่อเร็ว ๆ นี้Ripple (XRP) เพิ่งเปิดตัวกรอบการทำงานสำหรับการเข้าถึงกฎระเบียบของ Crypto ในสหรัฐอเมริกา โดยสรุปคำแนะนำหลายประการให้กับผู้กำหนดนโยบายของวอชิงตัน
“เทคโนโลยีคริปโตเคอเรนซีและบล็อคเชนต้องการกรอบการกำกับดูแลและการออกใบอนุญาตที่ชัดเจน ซึ่งออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาความท้าทายเฉพาะในอุตสาหกรรมคริปโต โดยกรอบการกำกับดูแลนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ความชัดเจนทางด้านกฎหมายใกับอุตสาหกรรมและผู้บริโภคด้วยการกำกับดูแล แทนที่จะเป็นการบังคับใช้กฎหมาย” Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple กล่าว
Ripple ได้ทำลายแนวความคิดในเชิงรุกเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและกฎระเบียบด้านสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยการปรับแต่งให้มีการ “ทำในทันที” โดยเริ่มจากการวางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
“การพัฒนากรอบนโยบายที่มีประสิทธิภาพสำหรับ cryptocurrency จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีการสื่อสารและการทำงานร่วมกันที่ชัดเจนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงได้พูดคุยกันในเชิงรุกในประเด็นนี้แบบสองฝ่ายกับหน่วยงานกำกับดูแลและสมาชิกรัฐสภา” Susan Friedman หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Ripple กล่าว “การสนทนาเหล่านี้จะช่วยกำหนดมุมมองของเราเกี่ยวกับความชัดเจนด้านกฎระเบียบของอุตสาหกรรมและความต้องการของระบบนิเวศที่กว้างขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลตลอดจนถึงประเภทของข้อกำหนดที่หน่วยงานกำกับดูแลควรได้รับจากอุตสาหกรรม”
ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนควรเป็นแกนหลักของข้อเสนอด้านกฎหมาย
กฎหมายหรือกรอบนโยบายใด ๆ ที่มีจุดประสงค์เพื่อควบคุม cryptocurrencies ควรมีการเจรราหารือระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลและผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาด การทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนจะนำไปสู่ผลลัพธ์ด้านนโยบายที่มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมและตัวของผู้บริโภค
การเจรจาที่เปิดกว้างนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อการแก้ไขกฎหมายนวัตกรรมในอดีต ซึ่งได้กำหนดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมที่ประกอบด้วยผู้ได้รับแต่งตั้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) ตลอดจนถึงตัวแทนจากบริษัทฟินเทค บริษัทการเงิน และธุรกิจ SME
ข้อเสนอด้านกฎระเบียบทางการเงินที่มีอยู่เดิมสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อกำกับดูแล crypto
ตลาดการเงินของสหรัฐฯ ถือเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลก และส่วนหนึ่งเนื่องมาจากกรอบการกำกับดูแลที่มีอยู่ภายใต้การดำเนินงานของพวกเขา Ripple เชื่อว่ากรอบการทำงานนี้ สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับคุณลักษณะเฉพาะบางอย่างที่มีอยู่ในสกุลเงินดิจิทัลได้ เพื่อมอบความชัดเจนให้กับนักนวัตกรรม และปกป้องตลาดที่ผู้บริโภคสมควรได้รับ
ควรส่งเสริมและสนับสนุนนวัตกรรมแซนด์บ็อกซ์ของสกุลเงินดิจิตอล
เพื่อจูงใจให้มีสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างกรอบการกำกับดูแลที่สอดคล้องกันสำหรับสกุลเงินดิจิทัล Ripple เชื่อว่านวัตกรรมแซนด์บ็อกซ์ควรได้รับการส่งเสริมและการพิจารณา
หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐฯ ควรสนับสนุนให้มีการสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ “ปลอดภัย” เพื่อที่นักพัฒนาเครือข่ายจะได้รับอนุญาตให้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตนและพัฒนาเครือข่ายของตนภายในระยะเวลาที่จำกัด โดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง หากเป็นไปตามเงื่อนไขบางประการ นวัตกรรมแซนด์บ็อกซ์จะถือเป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนสามารถเป็นพื้นฐานของกฎระเบียบที่มีเหตุผลได้อย่างไร
Ripple เชื่อว่าข้อเสนอแต่ละข้อจะมอบความชัดเจนในด้านกฎระเบียบ ส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐอเมริกา
ที่มา cryptoslate