ตามรายงานฉบับล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวยกย่องวิธีที่เอลซัลวาดอร์ใช้จัดการกับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และประกาศว่า เศรษฐกิจของพวกเขาเติบโตเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2021 นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศยังได้ตระหนักถึงความพยายามของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ในการลดจำนวนอาชญากรรม “กระจายเมทริกซ์พลังงาน ส่งเสริมเศรษฐกิจ การกระจายความเสี่ยงและเพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน” อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึง Bitcoin กองทุนการเงินระหว่างประเทศยังคงมีท่าทีต่อต้านอย่างสมบูรณ์ และพยายามทำให้เรื่องนี้ดูไม่เกี่ยวข้องกับมัน
หลังจากชื่นชมความพยายามของเอลซัลวาดอร์ในการส่งเสริม “การรวมตัวทางการเงินและผลักดันให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ” กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้กล่าวโจมตี ไปที่ Bitcoin ซึ่งเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลของประเทศกำลังใช้เพื่อให้บรรลุสิ่งนั้น
“ด้วยความผันผวนของราคา BITCOIN การใช้มันเป็นการประมูลทางกฎหมายทำให้เกิดความเสี่ยงที่สำคัญต่อการคุ้มครองผู้บริโภค ความสมบูรณ์ทางการเงิน และความมั่นคงทางการเงิน การใช้ Bitcoin ยังก่อให้เกิดภาระผูกพันทางการคลัง ด้วยความเสี่ยงเหล่านั้น เราจึงไม่แนะนำให้ใช้ BITCOIN ในการประมูลตามกฎหมาย พนักงานยังแนะนำให้จำกัดขอบเขตของกฎหมาย BITCOIN และเรียกร้องให้เสริมสร้างกฎระเบียบและการกำกับดูแลของระบบนิเวศการชำระเงินใหม่”
อย่างไรก็ตามกองทุนการเงินระหว่างประเทศยังคงเพิกเฉยต่อความจริงที่ว่า ความผันผวนของราคา Bitcoin นั้นสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้ และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของพวกเขา นั่นคือ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังตกอยู่ในเสี่ยงจากภาวะเฟ้อ นอกจากนี้ เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีพิมพ์เงินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พลเมืองของตนได้รับผลกระทบจากการกระทำดังกล่าว