<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทำไมผู้คนจึงเลือกใช้เครือข่าย Solana มากกว่า Ethereum

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ค่าธรรมเนียม Gas ที่แพงลิบลิ่วและความล่าช้าในการทำธุรกรรมของ Ethereum ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวของระบบนิเวศด้วย เนื่องจากนักพัฒนาจำนวนมากขึ้น เริ่มมีความคิดที่จะย้ายไปยังบล็อคเชนของคู่แข่ง

โดยโปรเจกต์คริปโตตัวล่าสุดที่กำลังจะดำเนินการดังกล่าวก็คือ Crowny ซึ่งเป็นแอปที่มอบรางวัลเป็นเหรียญคริปโตให้กับสายช้อปที่โต้ตอบกับแบรนด์สินต่างๆ และมีกำหนดการไปยังเครือข่าย Solana ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้

สำหรับเหตุผลในการย้ายเครือข่ายในครั้งนี้ทาง Crowny ระบุบนทวีตว่า : 

“บล็อกเชน Solana เสนอต้นทุนต่อธุรกรรมที่ต่ำมาก และรับประกันความสามารถในการปรับขนาดที่ไร้ขีดจำกัดสำหรับในปีต่อ ๆ ไป สถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัยนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเร็ว และ Solana เป็นบล็อคเชนที่เร็วที่สุด”

ในขณะที่รายงานอยู่นี้ ค่าธรรมเนียม GAS ในการโอนเหรียญ ERC-20 บนเครือข่าย Ethereum มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22.63 ดอลลาร์

การย้ายเครือข่ายจาก Ethereum ไปยัง Solana นั่นไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ โดยในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Powerledger บริษัทพลังงานที่มุ่งเน้นในด้านบล็อกเชนของออสเตรเลีย ก็ได้ตัดสินใจย้ายแพลตฟอร์มจาก Ethereum มายัง Solana ด้วยเช่นกัน

อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นชัดเจนเลยก็คือ Brave อินเทอร์เน็ตเว็บเบราว์เซอร์ที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้งาน โดยบริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ Solana ในงาน Breakpoint Lisbon ที่โปรตุเกส นอกจากนี้ Brave crypto wallet ยังถูกกำหนดให้เตรียมรวมเข้ากับเครือข่าย Solana ในปีหน้านี้อีกด้วย เพื่อรองรับ dApp ของแพลตฟอร์ม

เมื่อพิจารณาถึงการย้ายเครือข่ายของโปรเจกต์คริปโตเหล่านี้ เหตุผลเดียวกันดูเหมือนว่าจะเรื่องของความเร็วในการทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมต่ำ และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า Ethereum

ในขณะที่รายงานอยู่นี้ ค่าธรรมเนียม GAS ในการโอนเหรียญ ERC-20 บนเครือข่าย Ethereum มีราคาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 22.63 ดอลลาร์