Tether Holdings ผู้ออก USDT stablecoin ต้องเผชิญหน้ากับการถูกฟ้องร้องจากนักลงทุนชาวสหรัฐฯ ที่ไม่พอใจข้ออ้างของบริษัทในศาลนิวยอร์ก โดย Matthew Anderson และ Shawn Dolifka จะเป็นโจทก์ตัวแทนของสมาชิกกลุ่มที่ซื้อ USDT ซึ่งถือเป็นการฟ้องร้องครั้งที่สองในระยะเวลาสี่เดือน
ในเอกสารที่ยื่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โจทก์ได้กล่าวหาบริษัท Tether Holdings ผู้ออก USDT ว่า Tether ไม่ได้มีเงินดอลลาร์สนับสนุน USDT จำนวน 100% อย่างแท้จริง
โดยระบุว่า Tether ได้ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณลักษณะของโทเคน Tether และอ้างถึงการขายโทเคนของ Tether ว่าเป็นการละเมิดสัญญา ทั้งนี้พวกเขาอ้างว่าเขามีสิทธิได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายที่เป็นผลสืบเนื่องที่จำถูกกำหนดในระหว่างการพิจารณาของคณะลูกขุน
Tether ได้ตอบโต้อย่างเป็นทางการ โดยอธิบายว่าการยื่นฟ้องดังกล่าวเป็น “คดีลอกเลียนแบบที่ไร้สาระ” ในบล็อกโพสต์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทกล่าวว่าโจทก์กำลังมองหาวิธีการหาเงินก้อนโตจากการฟ้องร้องที่ไร้สาระ โดยบริษัทเสริมว่าจะดำเนินคดีเชิงรุกกับโจทก์ในการฟ้องร้องที่จะถึงนี้
นี่เป็นครั้งที่สองที่ Tether ถูกฟ้องร้องในระยะเวลาสี่เดือน โดยในเดือนกันยายน Tether ชนะคดีทางกฎหมายที่คล้ายกันหลังจากกลุ่มนักลงทุนอ้างว่าผู้ออก USDT ได้ควบคุมตลาด crypto และส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียเงินจากการซื้อสินทรัพย์ crypto ในราคาที่สูงเกินจริง
อย่างไรก็ตามในเดือนกุมภาพันธ์ Letitia James อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์กปรับบริษัท Tether ด้วยมูลค่ากว่า 18.5 ล้านดอลลาร์เนื่องจากดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในนิวยอร์ก โดยได้ประกาศต่อสาธารณะว่าบริษัทหลอกลวงลูกค้าและการตลาดด้วยเงินสำรองที่เกินจริง อีกทั้ง Tether ยังถูกปรับอีกกว่า 41 ล้านดอลลาร์จาก Commodity Futures Trading Commission ในเดือนตุลาคมเนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐกล่าวว่าบริษัทได้บิดเบือนข้อมูลการสำรองเงินดอลลาร์ของ USDT