ในที่สุด ทางธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal reserve ก็ได้ออกมาตัดสินใจว่าจะคงดอกเบี้ย เมื่อช่วงตี 2 ของคืนที่ผ่านมา โดยตัวเลขนั้นอยู่ระหว่าง 0 และ 0.25%
ภายหลังจากนั้นราคา Bitcoin เพิ่มขึ้น 3.4% จากข่าว โดยแตะระดับสูงสุดใหม่ระหว่างวันเหนือ 49,000 ดอลลาร์ในเว็บกระดานเทรด Bitstamp โดยขณะนี้แนวต้านของมันอยู่ที่ 52,000 ดอลลาร์
Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้ศูนย์จนกว่าจะมีการจ้างงานเต็มที่ตามคำแถลงที่ออกโดยหน่วยงานดังกล่าว ในระหว่างการแถลงข่าว ประธาน Fed นายเจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่า ณ ปัจจุบันมันยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตลาดแรงงานจะขาดแคลนไปอีกนานแค่ไหน:
“เศรษฐกิจมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วสู่การจ้างงานสูงสุด การขาดแคลนแรงงานยังคงมีอยู่ แต่จะนานแค่ไหนนั้นยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการระบาดของไวรัสรอบใหม่ออกมาอีก”
ค่ามัธยฐานของ Fed จะแสดงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2565 และคาดว่าจะมีการการปรับขึ้นอีกสามครั้งในปี 2566
ธนาคารกลางยังได้เพิ่มอัตราการลดการซื้อพันธบัตรเป็นสองเท่าโดยเหลือแค่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน
ผู้สังเกตการณ์ตลาดกำลังมองหาสัญญาณของ Fed ในการยกเลิกการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าเศรษฐกิจท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดยทาง Fed อาจมีแผนการยกเลิกการพิมพ์เงินเพื่ออัดฉีดเพิ่มอยู่ ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์เงินเฟ้อของดอลลาร์ได้ผลักดันราคาสินทรัพย์เช่น Bitcoin ในเดือนมีนาคม
นายพาวเวลล์อ้างว่า Fed จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าการ taper นั้นจะสิ้นสุดลง
“โดยพื้นฐานแล้วเราเหลือการประชุมอีกแค่ 2 ครั้งจากตอนนี้ ในการทำ taper ให้เสร็จ”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Fed ไม่ได้ใช้คำว่า “ชั่วคราว” ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จาก Jack Dorsey อดีตซีอีโอของ Twitter และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของดอลลาร์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีราคาผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่าสินค้าในตลาดนั้นมีราคาที่แพงขึ้นอย่างมาก หากนับตั้งแต่ปี 1982 เลยทีเดียว
Powell กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อในระดับนี้ไม่สอดคล้องกับสภาพราคาสินค้าในตลาด