<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ก.ล.ต. สั่งปรับ Bitazza-Satang-Bitkub เหตุไม่นำสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากกับผู้ให้บริการตามเกณฑ์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งปรับ บริษัทผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน  3 ราย ได้แก่ 1.บริษัท บิทาซซ่า จำกัด จำนวน  3,564,000 บาท  เนื่องจากในระหว่างวันที่ 4 มกราคม ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 บริษัทได้มีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไว้ในกระเป๋าเงิน “cold wallet” น้อยกว่า 90% ของมูลค่าทั้งหมดและไม่นำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไปฝากไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลตามเกณฑ์ที่กำหนดเป็นเวลา 185 วัน

2. บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถูกปรับจำนวน 4,656,000  บาท  เนื่องจากในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 บริษัทได้มีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไว้ในกระเป๋าเงิน “cold wallet” น้อยกว่า 90% ของมูลค่าทั้งหมดและ ไม่นำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไปฝากไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลตามเกณฑ์ที่กำหนดเป็นเวลา 212 วัน

3. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัดถูกปรับทั้งหมด 8 กรณี รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,971,500 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้ :

  • ในระหว่างวันที่ 2 -21 มกราคม 2564 บริษัทมีระบบการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ระบบรับฝากและถอนทรัพย์สิน และระบบการแสดงยอดทรัพย์สินของลูกค้า ไม่เหมาะสมและเพียงพอให้ประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยปรับ 305,000 บาท
  • ในเดือนมกราคม 2564 บริษัทได้รายงานเหตุการณ์ที่ระบบหยุดชะงัก (system disruption) ต่อสำนักงานล่าช้าเกินระยะเวลาที่ประกาศกำหนด เป็นจำนวน 6 ครั้ง   เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 454,000 บาท 
  • ในระหว่างวันที่ 6 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 บริษัทมีระบบงานรวบรวมข้อมูลลูกค้าไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บริษัทประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ  โดยปรับเป็นเงิน 398,500.00 บาท
  • ในระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 20 มกราคม 2564 บริษัทมีระบบ Support ลูกค้า รวมทั้งจำนวนและความรู้ความสามารถของบุคคลากรไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอให้บริษัทประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับเป็นเงิน 160,500.00 บาท
  • ในระหว่างวันที่ 8 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 บริษัทมีระบบงานที่ช่วยเสริมสร้างและรักษากลไกการทำงานของระบบซื้อขายไม่รัดกุมเพียงพอทำให้ธุรกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการปั่นราคา โดยปรับเป็นเงิน 1,265,000.00 บาท
  • ในระหว่างวันที่ 8 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 7 มีนาคม 2564 บริษัทมีระบบงานในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไม่รัดกุมเพียงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือกล่าวง่าย ๆ ก็คือ บริษัทไม่มีการกำกับดูแลและติดตามความคืบหน้าของเหรียญ CTXC อย่างสม่ำเสมอ และมีการปรับตัวของราคาผิดปกติอย่างมาก โดยปรับเป็นเงิน 230,500.00 บาท
  • บริษัทไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (trading rules) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยหยุดซื้อขายเหรียญ JFIN Coin (JFIN) และ Infinitus (INF) เป็นการชั่วคราว  โดยปรับเป็นเงิน 300,000.00 บาท
  • ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 บริษัทได้มีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไว้ในกระเป๋าเงิน “cold wallet” น้อยกว่า 90% ของมูลค่าทั้งหมดและไม่นำสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าไปฝากไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลตามเกณฑ์ที่กำหนดเป็นเวลา 33 วัน โดยปรับเป็นเงิน 858,000.00 บาท

แหล่งที่มาของข่าว : bangkokbiznews