ในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin ได้เผชิญหน้ากับข่าวเชิงลบอยู่เป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความกังวลจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด, การประท้วงต่อต้านในคาซัคสถาน หรือแม้แต่แนวโน้มกราฟราคาที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดแรงเทขายมหาศาล จนนำไปสู่สีแดงเดือดในตลาดคริปโตปัจจุบัน
Fed สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้น
ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดขึ้นไม่นานหลังจากจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเผยแพร่ในช่วงเมื่อวานนี้ และแสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางสามารถขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ทันทีภายในเดือนมีนาคม
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯร่วงลงอย่างรวดเร็ว ดัชนี Nasdaq ที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับราคา Bitcoin ได้ร่วงกลับลงมา 3.34% มาปิดที่ 15,100 จุด ตามมาด้วยหุ้นของ Nvidia, AMD และ Adobe ที่ร่วงลดลงมากกว่า 5% ไม่เว้นแม้แต่หุ้นดาวโจนส์และ S&P 500 ที่ได้เห็นการร่วงลดลงเป็นสีแดงด้วยเช่นเดียวกัน
เหตุประท้วงที่คาซัคสถาน
นอกจากเรื่องความกังวลของการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว Bitcoin ยังเผชิญกับปัญหาอื่นๆ ในภาคการขุด crypto อันเป็นผลจากการประท้วงที่เริ่มปะทุอีกครั้งในคาซัคสถาน หนึ่งในประเทศที่มีกิจการการขุด Bitcoin มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยรายงานระบุว่า รัฐบาลของประเทศสั่งให้ปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศเพื่อยุติเหตุความไม่สงบ และบังคับให้นักขุดคริปโตถอดปลั้กอุปกรณ์เครื่องขุดของพวกเขา
จากข้อมูลของCoinwarz พบว่าอัตรา hashrate บนเครือข่าย Bitcoin ได้ร่วงลดลงเหลือ 165 EH/s หลังจากพุ่งแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 229 EH/s เมื่อวันที่ 1 มกราคม
Bitcoin ร่วงทะลุระดับแนวรับสำคัญ
Mark Newton กรรมการผู้จัดการของ Fundstrat Global Advisors กล่าวว่า $45,655 เป็นระดับแนวรับที่สำคัญสำหรับ Bitcoin
แต่ตอนนี้มันได้พังทลายลงแล้ว และเหรียญคริปโตเบอร์หนึ่งของโลกดูเหมือนว่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับ $40,000 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021