Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งเป็นธนาคารกลางของประเทศสิงคโปร์ได้ออกแนวทางในการจำกัดผู้ให้บริการ cryptocurrency ไม่ให้ทำการตลาดหรือส่งเสริมบริการของตนต่อสาธารณชนในวันจันทร์
Monetary Authority of Singapore (MAS) หรือธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ออกแนวทางในการจำกัดผู้ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลไม่ให้ทำการตลาด วางโฆษณาหรือสื่อส่งเสริมการขายในรูปแบบใดๆ ในพื้นที่สาธารณะ เช่น การขนส่งสาธารณะและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์สาธารณะ สื่อกระจายเสียงและสิ่งพิมพ์ การจัดหาเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หรือส่งเสริมบริการของตนต่อสาธารณชนในวันจันทร์
ทั้งนี้ Loo Siew Yee ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการของธนาคารกลางได้ออกมากล่าวว่า
“ผู้ให้บริการโทเค็นการชำระเงินดิจิทัล (DPT) สามารถทำการตลาดหรือโฆษณาบนเว็บไซต์ของบริษัท, แอพมือถือ, หรือบัญชีโซเชียลมีเดียท่านั้น แต่ไม่ควรแสดงภาพการซื้อขายบนแพลตฟอร์มหรือมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการตลาดที่เล็งเป้าไปยังประชาชนทั่วไป”
จนถึงตอนนี้ MAS ได้ให้ใบอนุญาตแก่บริษัท 4 แห่งเพื่อให้บริการการชำระเงินด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลจากผู้สมัครประมาณ 180 ราย บริษัทเหล่านี้ได้แก่ Fomo Pay บริษัทฟินเทครายใหญ่, Independent Reserve การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลของออสเตรเลีย, DBS Vickers โบรกเกอร์ DBSs ของธนาคารในประเทศ และ Triple A ผู้ให้บริการชำระเงินสกุลเงินดิจิทัลในสิงคโปร์
ทั้งนี้กฎระเบียบของผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลของสิงคโปร์จะต้องมุ่งเน้นไปที่การป้องกันการฟอกเงินและการจัดการจัดหาเงินทุนให้กับผู้ก่อการร้ายเป็นหลัก พร้อมทั้งได้มีการออกคำเตือนอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับ “ความเสี่ยงจากการลงทุนที่สูงและไม่เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป”
Singapore FinTech Association (SFA) กล่าวว่าแนวทางใหม่ระบุว่าสิงคโปร์ยังคงมองว่าบล็อกเชนและคริปโทเคอร์เรนซี่ “เป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพที่จะได้รับการยอมรับในชุมชนเป็นจำนวนมาก” แต่มีความจำเป็นที่การยอมรับดังกล่าวจะต้องมี “ความสมดุล” ระหว่างการใช้งานจริงและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
Shadab Taiyabi ประธาน SFA กล่าวว่า “เราจะทำงานร่วมกับ MAS และบริษัท Fintech ต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาสภาพแวดล้อมต่อ DPT จะราบรื่นในเชิงบวกและเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ทรงคุณค่ามาสู่ประเทศสิงคโปร์”
อย่างไรก็ตาม MAS ยังไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวทางของสิงคโปร์ต่อ cryptocurrency แต่มองว่านี่เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของสิงคโปร์ต่ออุตสาหกรรมนี้