Mark Zuckerberg อาจบอกว่า Metaverse นั้นคืออนาคตแต่ในสายตาคนอื่นนั้นอนาคตได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และคนนั้นก็คือ Neal Stephenson นักเขียนนิยายแนว Sci-Fi เป็นผู้ที่ให้กำเนิดคำว่า “Metaverse” จากยวนิยายเรื่อง Snow Crash ในปี 1994
นับตั้งแต่ปี 2003 ผู้คนนับล้านได้ทำงาน, เล่นและพูดคุยกันใน Metaverse ที่เปรียบดั่งชีวิตที่สองในขณะที่ทศวรรษแรกของปี 2000 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเกมแต่การนำเสนอกราฟิกแบบเป็นแนวพิกเซลนั้นแลดูจะเหมือนกับถอยห่างจากวิสัยทัศน์ของ Metaverse สมัยใหม่ที่บริษัทต่าง ๆ เช่น Meta และ Microsoft แต่นี่คือกำหนดกรอบของโลกเสมือน Metaverse ที่ผู้คนสามารถตอบโต้กันได้ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่แนวคิดใหม่
ปัจจุบัน Decentraland เป็น Metaverse ที่รู้จักกันไปอย่างแพร่หลายโดยที่สร้างแรงจูงใจเครือข่ายผู้ใช้งานทั่วโลกที่พวกเขาสามารถซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัล, สำรวจ, โต้ตอบกันและเล่นเกมซึ่งมูลนิธิ Decentraland ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 และได้มีการระมทุนผ่าน ICO ในปี 2017 ทำเงินได้กว่า 26 ล้านดอลลาร์แม้ว่าใน Decentraland จะมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและมีฟิเจอร์ต่าง ๆ ให้ทำมากมายแต่นั่นก็ยังดึงดูดให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มได้ไม่มากเท่าที่ควร
กราฟจาก cointelegraph และ PwC
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนมีสื่อรายงานเปิดเผยบริษัท Metaverse Group ได้ซื้อ “ที่ดิน” ใน Decentraland ไปกว่า 2.43 ล้านดอลลาร์โดยมีแผนที่จะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นดิจิทัล
การสร้างรายได้จาก Metaverse กำลังเขย่าวงการอสังหาริมทรัพย์
เห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าอสังหาริมทรัพย์ในเชิงพาณิชย์ใน metaverse จะมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในปีต่อ ๆ ไป
ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2021 Tokens.com ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงที่จะซื้อหุ้น 50% ของอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลที่ Metaverse Group นั้นเป็นเจ้าของเพิ่มเข้าไปในพอร์ตจากนั้นก็มีแผนที่จะทำการตลาดในการทำเป็นกองทุนที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลแห่งแรกโดยที่ Metaverse Group นั้นเชื่อว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนสาธาณะได้ภายในปี 2022 หรือ 2023
ความนิยมในการซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลอย่างที่ Metaverse Group นั้นทำก็แทบจะไม่ต่างจากการดำเนินการทางการตลาดในฐานะบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบดั้งเดิมเมื่อราคาที่ดินสูงขึ้นและผู้ซื้อก็ไล่ซื้ออย่างบ้าคลั่งทำให้บางคนเกิดความสงสัยว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ดิจิทัลยังต้องรอการพิสูจน์ถึงความคุ้มค่าในอนาคตภายภาคหน้า
แม้ว่าราคาจะสูงแต่ความสนใจในอสังหาริมทรัพย์บนโลก Metaverse ก็มีอัตราที่เติบโตเช่นกันแล้วยิ่งด้วยการระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่นั่นจึงเป็นเหตุที่ผลักดันให้ผู้คนมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งของโลกเสมือนจริง
ในช่วงปลายเดือนกันยายน The Sandbox ได้ประกาศความร่วมมือกับ Snoop Dogg แร็ปเปอร์ในตำนานเพื่อก่อตั้งคฤหาสน์และคอลเลกชัน NFT ใน Metaverse และในเดือนถัดไป Paris Hilton ได้ร่วมมือกับ Decentraland และ Genies เพื่อทำหน้าที่เป็นหนึ่งในศิลปินหลักของ Metaverse Festival ครั้งแรกที่จะจัดขึ้นในปลายเดือนตุลาคม
นักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หันมาสนใจอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงอย่างไร
ความดึงดูดและความสนใจที่เข้ามาในโลกของ Metaverse นั้นไม่ได้มาจากที่ไหนไกลแต่มาจากบริษัทที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Meta และ Microsoft ที่มีความกระตือรือร้นในการผลักดันโปรเจกต์ Metaverse
เช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่มันจะยังคงรักษามูลค่าไว้ได้แม้จะอยู่ในช่วงที่มีวิกฤติเศรษฐกิจ metaverse นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องแม่จะมีเงินบางส่วนที่ไหลไปลงทุนใน Bitcoin (BTC) และ cryprtocurrency ตัวอื่น ๆ
ความนิยมของ NFT บวกกับการใช้ชีวิตของผู้คนที่อยู่บนโลกออนไลน์นั้นเพิ่มมากขึ้นซึ่งสวนทางกับจำนวนของที่ดินใน metaverse ที่มีอย่างจำกัดทำให้มันราคาสูงตัวอย่างเช่น Decentraland มีกระเป๋าสำหรับจัดเก็บที่ดินเพียง 90,000 ใบเท่านั้น
บริษัทด้านการลงทุนก็ต่างให้ความสนใจ Metaverse และได้มีการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้ามามีส่วนร่วมด้วยราคาที่สูงลิ่ว, ความนิยมและความสะดวกสบายในการซื้อนั้นมีมากกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบเดิมปัจจัยเหล่านี้จะสามารถดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่าง ๆ ให้เข้ามาลงทุนใน metaverse ได้มากยิ่งขึ้น
แต่ท้ายสุด สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนควรระวังนั้นก็คือ แม้ที่ดินเสมือนจริงบน Metaverse จะดูมีมูลค่ามากขนาดไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่ามันเป็นเพียงแค่ที่ดินดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งคุณไม่สามารถใช้มันเป็นที่ซุกหัวนอนเหมือนกับบ้านที่มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องพิจารณาอีกครั้ง หากคิดที่จะขายที่ดินจริง เพื่อเอามาแลกที่ดินในจักรวาลนฤมิต