เราได้เห็นการร่วงลงของตลาดคริปโตที่กำลังมีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันมานี้ เมื่อจำนวนผู้ซื้อเริ่มลดลงเรื่อย ๆ แม้จะมีนักวิเคราะห์สายเทคนิคก็ได้ออกมากล่าวว่าการกลับตัวของราคาอาจมีมาให้เห็นในเร็ว ๆ นี้
ท่ามกลางขาลงของเหรียญคริปโตหลายตัวในตอนนี้ ดูเหมือนว่าผู้ก่อตั้ง Ethereum นาย Vitalik Buterin ได้ออกมากล่าวว่าสิ่งนี้จะส่งผลดีต่อวงการคริปโตในระยะยาว
ยินดีต้อนรับสู่ฤดูหนาวของคริปโต
เมื่อแฟนพันธุ์แท้ทองคำอย่างนาย Peter Schiff ได้ออกมาเชียร์การร่วงลงของตลาดคริปโตอย่างออกนอกหน้า นาย Vitalik ได้ออกมากล่าวว่าผู้ที่เชื่อมั่นในตลาดที่แท้จริง อีกทั้งอุทิศตัวให้กับการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ นั้นควรที่จะเปิดใจยอมรับตลาดหมีด้วย
ทำไม? เพราะคนที่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรมนี้หลังจากตลาดขาลงผ่านไปนั้นจะเหลือแต่ผู้ที่คลั่งไคล้และนักประดิษฐ์ตัวยง ไม่ใช่นักเก็งกำไรที่หวังแค่ความรวยแบบฉาบฉวย “พวกเขายินดีกับตลาดหมี เพราะเมื่อมีช่วงเวลาอันยาวนานของราคาที่ขยับขึ้นด้วยปริมาณมหาศาลเช่นนี้ มันทำให้ผู้คนจำนวนมากมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็มีแนวโน้มที่จะทำให้มีการเก็งกำไรในระยะสั้นจำนวนมากเช่นกัน” Buterin บอกกับ Bloomberg
ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum กล่าวเสริมว่าโครงการสาย ‘กาว’ ต่าง ๆ มีแนวโน้มที่จะตายในช่วงตลาดหมี เนื่องจากมีเพียงโครงการที่ยั่งยืน (ในแง่ของโครงสร้าง ทีม และชุมชน) เท่านั้นที่จะสามารถฝ่าฟันพายุได้
Bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ อยู่ในช่วงขาลงนับตั้งแต่ที่ทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ราคาของ Bitcoin ร่วงต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่สำคัญที่ $40,000 โดยปัจจุบันถูกซื้อขายอยู่ที่ $38,366.86 ณ เวลาที่เผยแพร่ นอกจากนี้มันยังลดลง 44.4% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 69K ดอลลาร์อีกด้วย
Ethereum ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกตามมูลค่าราคาตลาด ก็ลดลงด้วยเช่นกัน โดยมีมูลค่า $2,658.53 ต่ำกว่าจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 46.5%
$30,000 เป็นระดับแนวรับถัดไปที่นักวิเคราะห์กำลังมองหาสำหรับ bitcoin หากระดับนี้ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ ราคา BTC อาจลดลงอีก เหมือนตอนปี 2018 ที่ราคานั้นได้ร่วงกว่า 80%
โดยสรุป
ตลาดหมีที่ยืดเยื้อนั้นน่าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดสำหรับนักลงทุนสกุลเงินดิจิตอล เพื่อความอยู่รอด พวกเขาจำเป็นต้องอยู่ในตลาดโดยมองมันในระยะยาว แทนที่จะเป็นระยะสั้น
Buterin ชี้ให้เห็นอย่างชาญฉลาดว่าราคาที่ตกต่ำจะช่วยให้ผู้ที่สร้าง crypto หันมาสนใจอย่างเต็มที่ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่สามารถส่งเสริมการยอมรับมากขึ้น