<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บริษัทยักษ์ใหญ่ในไทย PROEN Corp ประกาศซื้อเหรียญ Bitkub Coin จำนวน 250,000 KUB เพื่อเปิด Node

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากการประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 3/2565 ของบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2565 คณะกรรมการได้มีมติอนุมัติการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทคริปโตเคอร์เรนซี่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท บิทคับ บล็อคเซน เทคโนโลยี จำกัด (“ Bitkub”)

โดยบริษัทจะเข้าร่วมเป็น “Validator Node” แบบ PoSA (Proof of Stake Authority) ในระบบ Blockchain ของ BitKub ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบยืนยันข้อมูลสำเนาการทำรายการ ธุรกรรมจากบัญชีธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์บนแพลตฟอร์ม Bitkub Chain ที่ถูกกระจายไปยังเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์เชิฟเวอร์ของบริษัทจากการถือเหรียญ KUB เพื่อค้ำประกันการเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรม (Staking)

ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงจำเป็นจะต้องซื้อเหรียญ KUB จาก Bitkub มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 72,949,815 บาท โดยบริษัทจะได้รับ เหรียญ KUB จำนวน 250,000 เหรียญ พร้อมกับเงื่อนไขไม่ให้บริษัททำการขายหรือแลกเปลี่ยนเหรียญดังกล่าวก่อนกำหนดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เพื่อให้บริษัทได้รับสถานะเป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Bitkub Chain

ทั้งนี้บริษัทจะได้รับผลตอบแทนจากการเป็น Validator Node เป็นค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมประมาณร้อยละ 20-40 เปอร์เซ็นต์ของเหรียญที่ลงทุน โดยมูลค่านั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญ KUB ที่ถือครองและจำนวนครั้งของการทำธุรกรรมที่มีการตรวจสอบ

“การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในผู้ตรวจสอบธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Bitkub Chain จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทย หันมาสนใจในการทำธุรกิจผ่านระบบ Blockchain มากขึ้น  ขณะเดียวกันจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของ PROEN ในการเป็นผู้ให้บริการ Internet Data Center และ Cloud Service เนื่องจากความต้องการในการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลจะมีมากขึ้นตามไปด้วย”

สำหรับการตัดสินใจลงทุนกับ Bitkub ในครั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทโปรเอ็นกล่าวให้ความเห็นว่า การทำธุรกรรมดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนธุรกิจของบริษัทในด้าน Internet Data Center และ Cloud Service ซึ่งเป็นระบบหลักที่ในการเปิดให้บริการทางการเงินในรูปแบบ Decentralized Finance ( DeFi) ซึ่งเป็นบริการทางการเงินโดยไม่ต้องอาศัยตัวกลางในการควบคุม ทำงานบนเครือข่าย blockchain และสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้กับบริษัทในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังจะได้รับประโยชน์ในการศึกษาการทำแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการเปิดให้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย