ในตลาดคริปโตนั้นข้อมูล on-chain ต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการซื้อของนักเทรดได้หลายต่อหลายครั้งซึ่งเมื่อประกอบกับตัวชี้วัดด้วยยิ่งแล้วทำให้การซื้อนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นวันนี้ทางเราจะพาไปทำความรู้จักกับตัวชี้วัดยอดนิยมอย่าง Fear&Greed ว่าคืออะไรแล้วมีประโยชน์อย่างไร
ความหวาดกลัวขีดสุดนั้นหมายถึงอะไรในตลาดคริปโต
แม้ว่ามันจะเรื่องที่ยากในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวราคาของคริปโตด้วยความแม่นยำแบบ 100% แต่ตัวชี้วัด Fear&Greed นั้นสามารถช่วยได้
ตัวชี้วัดนั้นจะสร้างค่าค่าเดียวระหว่าง 1-100 หากค่านั้นออกมาเท่ากับ 1 หมายความว่าตลาดคริปโตนั้นจะตกต่ำอย่างต่อเนื่องเนื่องมาจากผู้คนในตลาดกำลังตกอยู่สถานะหวาดกลัวอย่างมากและจะทำการเทขายเหรียญที่พวกเขานั้นถือครองอยู่
ในทางกลับกันหากตัวเลขไปอยูที่ 100 ตลาดกำลังอยู่ในจุดกำลังจะกลับไปสู่ในช่วงการปรับฐานนั่นก็แสดงให้เห็นว่าผู้คนในตลาดนั้นกำลังอยู่ในสภาวะที่กำลังโลภอย่างมาก (เช่นการซื้อเหรียญเพิ่ม) แล้วแบบนี้ตัวชี้วัด Fear&Greed นั้นทำงานอย่างไร
ตัวชี้วัดจะแสดงหวาดกลัวสุดขีดเมื่อค่านั้นออกมาอยู่ระหว่าง 0-24 เมื่อค่าเพิ่มมาอยู่ที่ระหว่าง 25 และต่ำกว่า 50 จะเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวและค่า 50 ซึ่งเป็นค่าที่อยู่กึ่งกลางจะแสดงถึงสภาวะที่เป็นกลางในทางตรงกันข้ามเมื่อค่าที่ได้นั้นออกมาอยู่ระหว่าง 51-74 จะอยู่ในสถานะโลกและเมื่อค่าเพิ่มขึ้นไปอีกตั้งแต่ 75 ขึ้นไปก็จะเป็นระดับโลกอย่างมาก
ภาพจาก : Cointelegraph
อารมณ์นั้นเป็นตัวแปรที่ขับเคลื่อนตลาดคริปโตเมื่อตลาดปรับตัวเป็นชาขึ้นผู้คนเกิดความโลภส่งผลให้คนในตลาดเกิดสภาวะกลัวการตกรถ (FOMO) นอกจากนี้เมื่อตลาดเปลี่ยนเป็นสีแดงผู้คนก็มักจะเทขายเหรียญที่พวกเขานั้นถือซึ่งเป็นการกระทำที่หุนหันพลันแล่น
แล้วคุณใช้ Fear&Greed ประกอบกับการเทรดได้อย่างไร
ตัวชี้วัด Fear&Greed นั้นเหมาะสำหรับการใช้ในการเทรดแบบรายวันมากกว่าการซื้อขายเก็บในระยะยาว
การใช้ตัวชี้วัดเป็นตัวบ่งชี้ถึงเทรนด์ของตลาดจะช่วยให้คุณนั้นสามารถลงทุนในคริปโตได้อย่างชาญฉลาดตัวอย่างเช่นเมื่อค่าตัวชี้วัดอยู่ในย่านหวาดกลัวอาจหมายความว่าราคาของเหรียญของคริปโตอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นและคุณสามารถตัดสินใจในการซื้อ, ถือหรือขายโดยปกติแล้วนั้นราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นตัวบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการขาย
อย่างไรก็ตามเมื่อค่าของตัวชี้วัดนั้นเพิ่มสูงขึ้นอาจะเป็นตัวบ่งบอกว่าในไม่ช้านั้นราคาของคริปโตอาจจะปรับตัวลงซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการซื้อดังนั้นความเชื่อมั่นในเหรียญคริปโตจึงถูกขับเคลื่อนด้วยการที่ราคาเหรียญนั้นเพิ่มหรือลด
เมื่อตัวชี้วัดนั้นอยู่ในระดับที่หวาดกลัวสุดขีดดัชนีนั้นก็มีแนวโน้มที่จะกลับตัวเปลี่ยนเป็นสัญญาณแรกเริ่มของความโลกและนำไปสู่สภาวะโลกอย่างขีดสุด
ตัวชี้วัดนี้นั้นไม่ดีนักสำหรับการใช้วิเคราะห์ในระยะยาวมันสามารถเกิดความโลกและความกลัวซ้ำไปซ้ำมาในคลาดทั้งสภาวะตลาดกระทิงและตลาดหมีระยะยาวอย่างไรก็ตามนักเทรดรายวันจะสามารถใช้ประโยชน์จากตัวชี้วัดนี้ได้ในการเก็งกำไร
แต่ทั้งนี้ตัวชี้วัดเพียงตัวเดียวอาจไม่เพียงพอและไม่ใช่คำตอบของช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการซื้อขายดังนั้นการหาข้อมูลเพิ่มเติมจากตัวชี้วัดตัวอื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน