นักลงทุนคริปโตมากประสบการณ์รายหนึ่งกล่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในยูเครนที่เกิดขึ้นนี้สามารถผลักดันให้ Bitcoin (BTC) เป็นสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้
ในการให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg Technology Meltem Demirors หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ (CSO) ของ CoinShares บอกกับ Emily Chang ว่าการคว่ำบาตรทั่วโลกหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียรวมถึงคนขับรถบรรทุกในแคนาดาที่สูญเสียอำนาจในการเข้าถึงธนาคารระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล อาจทำให้ Bitcoin หายไปจากการเป็นสินทรัยพ์ประเภทเสี่ยง
“เราไม่เพียงแต่มีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยุโรปตะวันออก แต่เมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เรายังมีคนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาที่ถูกตัดขาดจากการเข้าถึงระบบธนาคารซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่มีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับ Bitcoin และ สกุลเงินดิจิทัล”
“ฉันคิดว่าสิ่งที่เราได้เห็นนี้คือความตื่นตระหนกที่เพิ่มมากขึ้น, ผู็คน, พลเมืองที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามที่ต่อสู้ด้วยอำนาตรใหญ่ซึ่งเรามีทางเลือกเป็น Bitcoin และ cryptocurrency เป็นเงินระดับโลกที่ไม่มีความเกี่ยงข้องกับเรื่องของการเมือง”
CSO ของ CoinShares กล่าวว่าการใช้คริปโตที่เพิ่มขึ้นนอกบริเวณที่เกิดความขัดแย้งของยุโรปตะวันออกนั้นเป็นตัวบ่งชี้ว่านักลงทุนทั่วโลกกำลังมองหาสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนี้
“เราไม่ได้เห็นเพียงแค่ซื้อขายในรัสเซียและยูเครนเท่านั้นแต่การซื้อขายส่วนมากนั้นยังมาจากสหรัฐอเมริกาเนื่องจากผู้คนนั้นมองว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นทั่วโลก”
บางทีนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ Bitcoin ในการแปรเปลี่ยนจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงกลายไปเป็นสินทรัพย์ที่จัดเก็บรักษามูลค่าเมื่อเวลานั้นผ่านไป
Meltem กล่าวสรุปว่าเวลาที่ผ่านไปยาวนานมากขึ้นนั้นก็จะเป็นเหมือนกับเครื่องมือที่ใช้ในการวัดว่าแท้จริงแล้วนั้น Bitcoin ได้เติบโตและกลายเป็นสินทรัพย์หรือไม่
“เวลาเพียงสองสามสัปดาห์จริง ๆ แล้วไม่เพียงพอสำหรับการทำวิทยานิพนธ์แต่ฉันคิดว่าในอีกไม่กี่เดือนและหลายปีต่อจากนี้เราจะต้องมีข้อมูลมากขึ้นอย่างแน่นอนซึ่งช่วยให้เราสามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าสถานะที่แท้จริงของ Bitcoin นั้นคืออะไรเมื่อเวลาผ่านไป”