โปรเจกต์ Metaverse ของ Solana ที่ก่อนหน้านี้สามารถระดมทุนไปราว 25,000 SOL ในช่วงการเปิดตัว ซึ่งมีมูลค่าอยู่ประมาณ 2 ถึง 4 ล้านดอลลาร์นั้น
ล่าสุดผู้ก่อตั้ง NeoNexus ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของโปรเจกต์ กล่าวว่า ทีมจะไม่พัฒนาโครงการนี้อีกต่อไป โดยให้เหตุผลว่าเพราะมูลค่าที่ลดลงของเหรียญ Solana (SOL)
โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา นาย Jack Shi ผู้ริเริ่มโปรเจกต์ Metaverse ได้ใช้บัญชี Twitter ของ NeoNexus เพื่อออกมาทวีตว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ทางเราต้องแจ้งให้ทุกคนทราบว่าเราไม่สามารถดำเนินการพัฒนาโปรเจ็กต์ NEONEXUS ได้อีกต่อไป ทางเราต้องการมอบที่จะโปรเจกต์นี้ให้กับชุมชนของเราหรือทีมนักพัฒนาที่ชุมชนเป็นคนเลือก หากเป็นไปได้”
หลังจากที่นาย Jack ได้ทวีตของข้อความนี้ ก็ได้มีกระแสวิพากวิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ผู้แสดงความคิดเห็นหลายคนกล่าวหาว่า ผู้พัฒนาได้ทำการ Rug Pull “ให้ตาย ! นี่มันเป็นการ Rug pull ครั้งใหญ่”
และบางส่วนก็ยังแสดงความคิดเห็นถึงเงินที่ทางผู้พัฒนาได้นำเงินไปใช้ว่า “โปรเจกต์นี้ได้ระดมเงินลุงทุนไปกว่า 4 ล้านดอลลาร์จากการ Mint NFT และเพราะอะไรไม่รู้เงินทุนก็หมดภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน?และนี่คือผู้พัฒนาที่กลับมาตอนพฤศจิกายน”
ด้วยมูลค่าของเหรียญ SOL ที่เคยพุ่งขึ้นไปมากกว่า 150$ ทันทีที่เหรียญดังกล่าวได้ถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าโปรเจกต์นี้อาจทำเงินได้ประมาณ 3.5 ถึง 4.5 ล้านดอลลาร์
NeoNexus เป็นโปรเจกต์ NFT Metaverse ที่มียอดขายมากกว่า 4,000 รายการ โดยโปรเจ็กต์นี้ได้มีการวางแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ 6,000 รายการ โดยมี NFT ที่เป็นตัวละคร, ยานพาหนะ และอุปกรณ์เสริมที่วางแผนไว้สำหรับอนาคต ซึ่งปัจจุบันโครงการมีสมาชิกมากกว่า 13,000 รายใน Discord
ในโพสต์บน Discord ของโปรเจ็กต์ Shi กล่าวว่าด้วยสภาพแวดล้อมตลาดหมีในช่วงนี้ทำให้ทีมตัดสินใจหยุดการพัฒนา โดยได้ใช้เงินทุนของโปรเจกต์ไปจ่ายค่าจ้าง โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี ค่าธรรมเนียมธุรกิจ และภาษี
“เป็นเรื่องที่ยากที่จะเติบโตได้ในสภาวะตลาดเช่นนี้ ซึ่งราคาของ SOL ลดลงอย่างมากและความสนใจในโปรเจกต์ของ Solana NFT ทั้งหมดก็ค่อย ๆ ลบเลือนหายไป”