<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

INTEL เปิดตัวชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่  Intel Blockscale ASIC ซึ่งจะมาในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วันนี้ Intel ได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่โดยใช้ชื่อ Blockscale ASIC ซึ่งพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในการขุด Proof-of-Work (PoW) ซึ่งผ่านการวิจัยและการพัฒนาของทีมงานในแผนกที่เกี่ยวข้องมาเป็นเวลากว่าหลายทศวรรษข้อมูลตามข่าวประชาสัมพันธ์ที่ส่งมายัง Bitcoin Magazine

“Intel Blockscale ASIC จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัททำเหมืองขุด bitcoin บรรลุเป้าหมายทั้งการสร้างความยั่งยืนและวัตถุประสงค์ในการปรับขนาด hash rate ในปีต่อ ๆ ไป” 

Jose Rios ผู้จัดการทั่วไปของ Blockchain และ Business Solutions ในกลุ่ม Accelerated Computing Systems and Graphics Group กล่าว ที่ Intel

Intel จะจัดหาเฉพาะชิป ASIC ให้กับลูกค้าแทนที่จะส่งมอบระบบการขุด ASIC ที่สมบูรณ์ให้ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

ชิป Blockscale ASIC แต่ละตัวจะมอบ hash rate สูงสุด 580 กิกะแฮชต่อวินาที (GH/s) พร้อมประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุด 26 จูลต่อเทราแฮช (J/TH) และรองรับ IC สูงสุด 256 IC ต่อ chain นอกเหนือจากคุณสมบัติดังกล่าวยังมีความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิและแรงดันไฟฟ้าของชิป

ดังนั้นระบบการขุดที่ประกอบไปด้วยชิป Intel Blockscale ASIC 256 ตัวคาดว่าจะมอบ hash rate ได้ประมาณ 148 TH/s และใช้พลังงานประมาณ 3,860 วัตต์ (Watts) ระบบการทำเหมืองที่มีการระบายความร้อนด้วยอากาศที่เป็นจุดเด่นของ Bitmain ซึ่งเป็นผู้นำตลาดโลกในปัจจุบัน มีการส่งมอบ hash rate ที่140 TH/s ด้วยการใช้พลังงาน 3,010 W ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 21.5 J/TH

อุตสาหกรรมการขุด bitcoin ประสบกับปัญหาที่ปริมาณของ ASIC ไม่เพียงพอเนื่องจากการขาดแคลนชิปทั่วโลกในปัจจุบันสิ่งที่ Intel ทำมากกว่าการที่จะไปแข่งขันแบบตัวต่อตัวกับผู้นำตลาดปัจจุบันและพยายามจัดหาข้อเสนอที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 

Intel จะเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมนี้ในระยะสั้นและระยะกลางโดยการเพิ่มความพร้อมของนักขุดและเมื่อข้อจำกัดต่าง ๆ หายไปการแข่งขันในระยะยาวก็จะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพและต้นทุนที่จะใช้ในการซื้อ

โดยที่ตัวชิป Intel Blockscale ASIC ซึ่งจะมีการจัดส่งให้กับตลาดอุตสาหกรรมเหมืองขุดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 และเราอาจจะได้เห็นการแย่งกันจับจองเป็นเจ้าของชิปใหม่ตัวนี้เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการขุด Bitcoin