ในขณะที่ตลาดทั่วโลกประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ แต่ cryptocurrency ยังคงไม่ได้รับผลกระทบเท่าที่ควรทำให้ผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นตลาดที่แข็งแกร่งกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หุ้น”
Michael Hartnett หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Bank of America (BoA) ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคที่ลดลงในปัจจุบัน โดยตามบันทึกการวิจัยรายสัปดาห์ที่ส่งถึงลูกค้าขององค์กร ตามที่ Reuters รายงานเมื่อวันที่ 8 เมษายน
ในบันทึกย่อ เขาเตือนว่าภาวะถดถอยอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐพยายามดิ้นรนเพื่อบรรเทาภาวะเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปีด้วยการกระชับนโยบายและนักลงทุนคาดว่าดอกเบี้ยหลักจะปรับขึ้น 50 จุด
ตามที่ Hartnett อธิบายง่าย ๆ ว่า:
“ภาวะเงินเฟ้อกำลังช็อกและแย่ลง แต่นี่เพิ่งเริ่มต้น จงระวังภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังมา”
ทั้งนี้ Hartnett กล่าวเพิ่มเติมว่า cryptocurrency อาจทำได้ดีกว่าพันธบัตรและหุ้น
เป็นที่น่าสังเกตว่าหัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ BoA นั้นไม่ได้เป็นเพียงนักลงทุนคนเดียวที่คิดว่าคริปโตจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตลาดอื่น ๆ
ก่อนหน้านี้นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของ Bloomberg มีความเห็นคล้ายกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mike McGlone ได้กล่าวว่า cryptocurrency กำลังโดดเด่นท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางทุกแห่งในประเทศตะวันตกกำลังเผชิญอยู่
นอกจากนี้ เขายังกล่าวย้ำจุดยืนของเขาใน ‘ความแข็งแกร่งที่แตกต่าง’ ของพวกเขาเมื่อเทียบตลาดคริปโตกับตลาดหุ้น โดย Nasdaq ได้ลดลงประมาณ 8% ในปีนี้ ในขณะที่ Bitcoin (BTC) ยังคงแทบไม่เปลี่ยนแปลง
ก่อนหน้านี้ McGlone ยังแสดงความเชื่อว่า Bitcoin อาจเติบโตไปสู่หลักประกันดิจิทัลทั่วโลกและมันพร้อมที่จะประสบความสำเร็จหลังพบเห็นข้อเท็จจริงว่าการขาดทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลปี 2020 นั้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของ Nasdaq 100’s
อย่างไรก็ตามมูลค่าตลาดรวมของ cryptocurrency อยู่ที่ระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยแม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นจะประสบกับภาวะตลาดล่มมาเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน ก่อนจะกลับมาสู่มูลค่าดังกล่าวเป็นครั้งแรกของปี 2022 ในปลายเดือนมีนาคม