Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple เริ่มมองโลกในแง่ดีมากขึ้นว่า การต่อสู้คดีระยะยาวกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) จะส่งผลในเชิงบวกต่อบริษัทของเขา
การขึ้นพูดบนเวทีที่งานประชุม Paris Blockchain Week ในวันพฤหัสบดี Garlinghouse ได้บอกผู้เข้าร่วมงานว่า “ผลลัพธจากการฟ้องร้องคดีที่ยาวนานนั้นดีกว่าที่เขาคาดไว้มาก”
“คดีนี้ผ่านไปได้ด้วยดี และดีกว่าที่ผมคาดหวังไว้มาก มากกว่าตอนที่เริ่มครั้งแรกเมื่อ 15 เดือนที่แล้ว”
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากประกาศของทนายความของ RippleNet ที่ระบุว่า Ripple ได้รับ “ชัยชนะครั้งใหญ่” จากคณะกรรมการ ก.ล.ต. หลังจากที่ประธานผู้พิพากษา Sarah Netburn ได้ปฏิเสธคำขอของ SEC ในการพิจารณาป้องกันเอกสารภายใต้สิทธิ์พิเศษ เอกสารดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคำปราศรัยของอดีตผู้อำนวยการของ SEC นาย William Hinman ที่ระบุว่า Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) นั้นไม่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์
“กรณีนี้มีความสำคัญ ไม่ใช่แค่สำหรับ Ripple เท่านั้น มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม crypto โดยรวมทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา” Garlinghouse กล่าว
เขากล่าวเสริมด้วยว่าหาก Ripple แพ้คดี อาจมีการกำหนดตัวอย่างที่จะแสดงเห็นได้ว่า เหรียญคริปโตส่วนใหญ่ในกระดานแลกเปลี่ยนถูกจัดประเภทให้เป็น “หลักทรัพย์” โดยสำนักงาน ก.ล.ต.
นั้นหมายความว่า กระดานเปลี่ยนจะถูกบังคับให้ต้องลงทะเบียนกับ SEC เพื่อระบุตัวตนของผู้ถือเหรียญโทเค็นทั้งหมด
“หากคุณพิจารณาว่า XRP เป็นหลักทรัพย์ของ Ripple เราก็ต้องรู้จักทุกคนที่เป็นเจ้าของ XRP” เขากล่าว “นั่นเป็นข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. คือคุณต้องรู้จักผู้ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้”
อย่างไรก็ตาม ชัยชนะล่าสุดของ Ripple อาจทำให้สำนักงาน ก.ล.ต. ถอยห่างออกจากการโจมตีอุตสาหกรรม คริปโต ไปอีกก้าวหนึ่ง
ที่มา : cointelegraph