ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนอาจจะพึ่งได้รู้จักเขาคนนี้หรือบางคนอาจจะรู้จักเขามาบ้างแล้ว แต่ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักชายที่หลายคนเรียกเขาว่าวาฬไทยแบบเจาะลึก ซึ่งก็คือคุณแทนไท ณรงค์กูลนั่นเอง หรือชื่อไม่คุ้นแต่หลายคนอาจจะเคยผ่านตาคลิปของเขามาบ้างจากคอนเท้นท์ กดซื้อ Bitcoin ไปเป็นมูลค่าร้อยล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะเอามาก ๆ ที่สำคัญทันทีที่คุณแทนไทได้กดซื้อแล้วราคา Bitcoin กราฟก็ได้พุ่งขึ้นเป็นแท่งสีเขียวสวยสดในทันที
โดยวันนี้ทางสยามบล็อกเชน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณแทนไท เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้จักตัวตนของชายผู้นี้มากยิ่งขึ้น
คำถามแรก คุณแทนไท เริ่มต้นเข้าวงการคริปโตได้อย่างไรและคลุกคลีอยู่วงการนี้มาเป็นระยะเวลาเท่าไรแล้วคะ
คุณแทนไทกล่าวว่า ในช่วงปี 2561 เขาได้เริ่มต้นลงทุนโดนเริ่มลงทุนโดยการเทรด Forex และเริ่มเทรดคริปโตตอนช่วงปี 2563
“ผมเริ่มต้นจากการลงทุนเทรด Forex ตั้งแต่ช่วงปี 2561 โดยมีกลุ่มเพื่อนฮ่องกงแนะนำมีคนช่วยจัดการบัญชีเทรดให้ที่เขาเรียกกันว่า pamm ในช่วงนั้นทำกำไรได้เยอะมาก และช่วงหลังต่อมาเริ่มซบเซาเลยมองหาช่องทางการลงทุนรูปแบบอื่น
ได้มาศึกษาจริงๆจังๆเกี่ยวกับการเทรด cryptocurrency ช่วงปี 2563 ทำให้ได้รู้ถึงความสุดยอดของเทคโนโลยี Blockchain เชื่อว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงวงการการเงินในยุคปัจจุบันได้
หลังจากนั้นก็การเริ่มลงทุนซื้อ bitcoin ตั้งแต่ช่วงราคาถูก ๆ และ เข้าเทรด Future อย่างเต็มตัว โดยรวมๆอยู่ในวงการเทรดคริปโต 2 ปีกว่า ๆ แต่รู้จัก bitcoin มาก่อนหน้านั้นนานแล้ว”
สำหรับหลายคนก็คงมองว่าตลาดคริปโตก็คือโอกาส ซึ่งจากการสัมภาษณ์คุณแทนไทก็มีมุมมองว่าคริปโตนั้นคือโอกาสเช่นกัน โดยเขาได้ให้เหตุผลว่า “มูลค่าของตลาดคริปโตมันมหาศาล” ซึ่งแน่นอนว่าด้วยเหตุนี้การซื้อขายคริปโตต่อวันจึงมีเยอะมาก ๆ
และเมื่อถามว่าทำไมถึงเข้าวงการคริปโต คุณแทนไทก็ตอบด้วยวิสัยทัศน์อันก้าวไกลว่า
“ต่อไปคนจะรู้จักคริปโตมากขึ้น คนจะเข้ามาลงทุนกันเยอะขึ้นเทคโนโลยีจะเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม และ ผมมีความตั้งใจว่าจะเทรดและทำกำไรจากตลาดโลกเอาเงินกลับเข้าประเทศ และ ผลักดันธุรกิจ startup และ SME ของไทย ผมเลยเปิดบริษัท holding เปิดรับไอเดียแนวคิด ให้คนมา pitching ให้เราไปร่วมลงทุนได้”
และสำหรับใครก็ตามที่ติดตามคุณแทนไทอยู่เนี่ยจะรู้ได้เลยว่าเขานั้นเทรด Future เป็นประจำซึ่งบางวันก็กำไร บางวันก็ติดลบบ้าง โดยแนวคิดการเทรดของคุณแทนนั้นได้เน้นย้ำเลยว่า “ต้องใจเย็น” เพราะตลาดมันมีทั้งขาขึ้นและขาลง และความรู้ก็เป็นเรื่องสำคัญยิ่งการคำนวนพอร์ตและการออกออเดอร์
“สำหรับผมผมมองว่า ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่เปลี่ยนเงินจากคนใจร้อนมาหาคนใจเย็น ตลาดมันมีขาขึ้น ขาลง อดทนให้ได้ รอให้ได้ มันกลับมาแน่ แค่รอเวลา”
คุณแทนไทบอกต่อว่า “ในการเทรดเราจะต้องเทรดด้วยเงินที่เราไม่ใช้หรือเงินที่ยอมเสียได้ มันจะทำให้เราไม่เดือดร้อนและไม่เครียดกับมัน เวลาผมเทรดผมจะดูว่าเรามีเงินเท่าไรตั้งเป็น 100% เวลาออกออเดอร์จะออกแค่ 20-30%
คำนวณว่าพอร์ตเราจะรับไหวที่เท่าไร ถ้าเทรดฟิวเจอร์ผมจะให้ระยะห่างที่จะโดนล้างพอร์ตมันไกลๆ ไกลแบบแทบไม่มีโอกาสโดน มีเงินสำรองไว้ DCA ถัวเฉลี่ย เมื่อมันลงหนักๆ เวลาเทรดผมจะออกออเดอร์ใหญ่ๆเพื่อเวลามันขึ้นหลักไม่กี่จุดก็สามารถทำกำไรได้เยอะในเวลาสั้นๆ เล่นเป็นรอบๆ แต่ถ้าจังหวะเปิดออเดอร์ผิดทางก็ใช้หลักการ MM”
หมายเหตุ : MM คือ (Money Management)
จากการเทรดมาคุณแทนไทได้บอกว่าตัวเขาเองนั้นยังไม่เคย Cut loss เลยเพราะเน้นการบริหารพอร์ตที่สามารถควบคุมได้และรับไหว และที่สำคัญที่คุณแทนไทได้เน้นย้ำก็คือ “คนที่ไม่มีเงินเย็นไม่ควรเข้ามาเทรดฟิวเจอร์ตลาดมันโหดมากขึ้นแรงลงแรง ถ้าเน้นการลงทุนระยะยาวควรซื้อเป็นสินทรัพย์ไว้เกร็งกำไรจะดีกว่า”
สิ่งที่เราควรกังวลในตลาดคริปโตนอกจากจะต้องมัวระแวงกับอารมณ์ของตลาดแล้ว หลายครั้งเลยที่เราต้องกังวลว่าเงินนั้นจะหายรึป่าวเพราะความปลอดภัยที่ไม่เพียงพอ ซึ่งคุ
ณแทนไทก็เป็นหนึ่งคนที่ได้รับผลกระทบจากความไม่ปลอดภัยดังกล่าว คุณแทนไทกล่าวว่า
“ในส่วนตรงนี้ผมพลาดเองที่เคยจด “seed phrase” ไว้ใน line keep ผมไม่รู้ hacker ใช้วิธีไหนเข้ามาเอาข้อมูลไปได้ มีคนเตือนเยอะแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเจอด้วยตัวเอง
“seed phrase” ไม่ควรบันทึกอยู่ในสิ่งที่เป็นออนไลน์ มีโอกาสถูก hacker หาช่องโหว่วมาเอาไปได้ควรเก็บเป็นรูปแบบที่จับต้องได้ เช่นการจดใส่กระดาษและหาที่เก็บ ทำสำเนาเก็บไว้หลายๆที่กันหาย กันลืม กันโดยทำลาย”
จากการกระทำของคุณแทนไท ที่เรียกได้ว่าถูดพูดถึงไปทั่วทั้งวงการคริปโตประเทศไทย วันที่คุณแทนได้ตัดสินใจกดซื้อ Bitcoin ด้วยเงินกว่าร้อยล้านบาท ซึ่งคุณแทนไทได้ให้เหตุผลไว้ดังนี้
“ในช่วงที่กดซื้อเป็นราคาที่ต่ำกว่า 40,000$/btc เป็นราคาที่คิดว่าถูกแล้วเอากำไรจากปีที่แล้วมาทยอยซื้อเก็บไว้ เพราะผมจะทำกำไรเป็นรอบๆต่อปี ให้แบบว่าจังหวะทำกำไรมาในรอบนั้นให้มีเงินใช้อยู่ได้ทั้งปี (สำหรับพอร์ต spot)
ผมจะซื้อจุดที่ต่ำขายจุดที่สูง และค่อยหาจังหวะมาซื้อใหม่ตอนมันล่วงลงมาอีก และ ที่ตั้งใจอัด video ตอนซื้อเพื่ออยากทำให้ทุกคนเห็นว่า 3,000,000 usdt หรือประมาณ 100 กว่าล้านบาท มันจะส่งผลยังไงกับกราฟตลาดโลกเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่เคยเห็นแบบชัดๆขนาดนี้
ผลลัพธ์คือได้แท่งเขียวมานิดเดียว แล้วคิดดูตอนที่มันแท่งเขียวยาวๆ แรงซื้อในนาทีนั้นมันต้องมหาศาลขนาดไหนถึงทำแท่งที่แบบยาวๆได้ และ อีกจุดมุ่งหมายนึงช่วงนั้นราคามันร่วงหนักๆพอดีผมเลยอยากเป็นหนึ่งในแรงซื้อของคนไทยที่ช่วยพยุงราคาตลาดโลกสร้างขวัญกำลังใจให้เพื่อนๆเทรดเดอร์คนไทยทุกคน สุดท้ายแท่งเขียวนั้นอยู่กับเราไม่นานก็โดนคนทั่วโลกเทขายต่อทันที”
บอกได้เลยว่าคุณแทนไทมีความตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้นักเทรดหลาย ๆ คนมีความเข้าใจในตลาดมากขึ้น และอาจจะเพราะเหตุนี้เองก็ทำให้เขามีแฟนคลับเพิ่มมากขึ้นด้วย โดยวันนี้เราก็ได้รวบรวมการสัมภาษณ์คุณแทนไทที่มีต่อแฟนคลับมาฝากด้วย
“ผมอยากสร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆทุกคนที่อยู่ในตลาดคริปโต รู้ว่าตลาดคริปโต มันขึ้นแรง และ มันลงก็แรง เราต้องมีวิธีบริหารจัดการพอร์ตของตัวเอง ผมเคยผ่านวิกฤตที่เลวร้ายมาแล้วเมื่อปี 2564
ช่วงที่ประเทศจีนประกาศแบน Bitcoin ช่วงนั้นร่วงแรงมาก ๆ คนโดนล้างพอร์ตกันเพียบผมเป็นคนไทยส่วนน้อยที่รอดครั้งนั้นเพราะผมไม่ cut loss สู้กับมันใข้เวลาถือ ออเดอร์นานถึง5-6 เดือน สุดท้ายมันก็กลับมาจุดเดิมและทำกำไรไปในที่สุด เพียงแค่อดทนให้ได้ รอเวลามันก็จะกลับมา”
และหลังจากการซื้อ Bitcoin โชว์ คุณแทนไทก็ได้ถูกเรียกว่า ‘วาฬ‘ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธว่า “ผมยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นวาฬ” ซึ่งคุณแทนไทได้กล่าวว่า
“อยากขอบคุณทุกคนครับ แต่ผมยังไม่ถึงขั้นนั้นที่จะเป็นวาฬ ตามที่เขาพูดกันว่าวาฬ ต้องมี BTC มากกว่า 1000 btc ซึ่งผมยังมีไม่ถึงขนาดนั้น แต่ผมก็จะเทรดไปเรื่อยๆและทำกำไรจากตลาดโลกนำเงินกลับเข้าประเทศให้เยอะที่สุดในฐานะเทรดเดอร์คนไทย”
สรุป
จากการสัมภาษณ์คุณแทนไทบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ในการใช้เงินค่อนข้างมาก และเขาก็ต้องการที่จะใช้เงินเพื่อเป็นตัวอย่างในการเทรดให้พี่พี่น้องชาวไทยได้เห็นตัวอย่าง จริง ๆ ก็พูดได้ว่าคุณแทนไทเขาก็เป็นหนึ่งคนที่อยากให้อุตสาหกรรมคริปโตได้เติบโตและเรื่องจริงที่ว่า ตลาดคริปโตมันไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่ใคร ๆ เขาพูดกัน ถ้าหากนักเทรดทุกคนเรียนรู้และสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
สิ่งที่คุณแทนไทจะย้ำบ่อย ๆ เลยก็คือ ก็ต้องรอให้ได้และเงินที่นำมาเล่นควรจะเป็นเงินเย็น ซึ่งสิ่งนี้พูดเขียนเองก็เห็นด้วยเพราะสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้แน่ ๆ คือตลาด เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เราที่คุมได้แน่ ๆ ว่าเราจะใช้เงินส่วนไหน สำหรับใครก็ตามที่ไม่กล้าเล่นหรือรู้สึกว่า อยากดูการเทรดต่าง ๆ ก็สามารถไปดูคุณแทนไทเทรด หรือให้ข้อคิดดี ๆ ได้ที่ Facebook ส่วนตัว