ต้องบอกเลยว่าราคา Bitcoin ในเดือนนี้ไม่สู้ดีเอามาก ๆ อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเมื่อต้นเดือน (พ.ค.) ที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ได้ปรับราคาร่วงลงมาอย่างรุนแรงที่ต้องบอกว่าแรงมากจริง ๆ จนอาจจะทำให้นักเทรดหลายคนถึงกับอยู่ไม่สุขกันเลยทีเดียว
โดยราคาในปัจจุบันราคา Bitcoin อยู่ในช่วงราคาที่ $28,000 – $30,000 ในมุมมองภาพใหญ่ กูรูหลายคนยังมองว่า Bitcoin อยู่ในช่วงขาลงและมีแนวโน้มว่าราคาอาจจะลงไปอีก ซึ่งก่อนหน้านี้มีกูรูหลายท่านที่ได้ออกมาทำนายราคา Bitcoin ว่าจุดต่ำสุดจะไปอยู่ที่ราคาเท่าไร
แต่หลายคนเคยสงสัยกันไหมว่าอะไรบ้างที่เป็นตัวขับเคลื่อนราคาของ Bitcoin หรือจริง ๆ แล้ว ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้มีผลอะไร
สถานการณ์โลก
ราคาคริปโต โดยเฉพาะพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ต้องบอกเลยว่าเมื่อโลกมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ที่ค่อนข้างนักหนาสาหัส ราคา Bitcoin ก็จะร่วงตามไปด้วยทุกครั้งไป ซึ่งสิ่งนี้มักจะเกิดกับทุกตลาดไม่ว่าจะหุ้น ทอง น้ำมัน

อย่างครั้งนี้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ขึ้นซึ่งก็คือ การระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่ส่งผลต่อคนทั้งโลกแน่นอนว่าส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับเศรษฐกิจด้วย
ในช่วงเวลานั้นราคา Bitcoin ได้ลดระดับไปที่ราคา $3,867 หรือคิดเป็นมูลค่าที่ลดลงราว ๆ 57% ซึ่งตลาดอื่น ๆ ก็เป็นไปในทางเดียวกัน และหลังจากนั้นก็ฟื้นตัวและกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
และนอกจากเหตุการณ์โรคระบาดแล้ว เหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นก็มีผลเช่นกัน อย่างเมื่อปี 2021 กับเหตุการณ์บริษัท Evergrande กำลังจะปิดตัวลง ก็ส่งผลกระทบต่อ Bitcoin เช่นกัน โดยลดไปราว ๆ 6.9%
แล้วที่ขาดไม่ได้เลยนั่นคือเหตุการณ์เงินเฟ้อ ที่มีผลต่อราคาของ Bitcoin อย่างมากในช่วงปัจจุบัน
กฎระเบียบ
กฎระเบียบระหว่างประเทศค่อนข้างส่งผลกระทบร้ายแรงต่อราคาของ bitcoin เนื่องจากเป็นตัวกำหนดว่าตลาดใดสามารถเข้าถึงได้ หรือบริษัทใดบ้างที่สามารถเปิดให้บริการซื้อขายหรืออุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ใดบ้างที่สามารถดำเนินการได้
บางประเทศอย่างสหราชอาณาจักร อินเดีย รวมถึงไทย ก็มีบ้างที่เป็น กฎระเบียบของประเทศจะส่งผลต่อราคา Bitcoin แต่ตลาดหลักที่มีผลต่อราคา Bitcoin มาก ๆ เลยก็หนีไม่พ้นตลาดอเมริกาและจีน
เหตุการณ์พิสูจน์ได้ว่า กฎระเบียบคริปโตนั้นส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ก็คือเมื่อปี 2021 ในเดือนเมษายน ที่จีนได้มีการออกกฎปราบปรามการขุด Bitcoin อย่างจริงจัง เป็นผลทำให้ราคา Bitcoin ก็ลดลงไปถึง 5.5% รวมถึงหลังจากนั้นจีนก็ได้ประกาศให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ผิดกฎหมาย
เช่นเดียวกับฝั่งอเมริกา กับโปรเจ็กต์เรียกเก็บภาษีจากกำไรในการเทรดของประธานาธิบดี Joe Biden ส่งผลกระทบต่อราคาของ bitcoin เช่นเดียวกัน
อุปทานของ Bitcoin
อุปทานของสินทรัพย์ก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาเช่นกัน สินทรัพย์ที่หายากมีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้น ในขณะที่สินทรัพย์ที่มีมากมายจะมีราคาต่ำ โดยปกติอุปทานของ Bitcoin ถูกจัดการเป็นอย่างดี เนื่องจากจะมีการผลิตขึ้นได้เพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น และมีเพียงจำนวนที่ถูกสร้างต่อปีจะถูกกำหนดในอัตราคงที่ และอัตรานั้นได้รับการออกแบบให้ผลิตได้น้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป
อัตราการผลิต Bitcoin จะลดลงทุก ๆ สี่ปี สิ่งนี้เรียกว่า halving โดยจำนวนเหรียญที่มอบให้เป็นรางวัลสำหรับการขุดบล็อกที่ประสบความสำเร็จนั้น จะลดลงครึ่งหนึ่ง โดยครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นก็คือในเดือนพฤษภาคม 2020อุปทานในอนาคตของ Bitcoin จึงลดน้อยลง ซึ่งส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้นนั่นเอง
ความต้องการ Bitcoin
Bitcoin ได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการรายงานข่าวที่เพิ่มขึ้นและการวิเคราะห์ข้อมูลจาก “ผู้เชี่ยวชาญ” รวมถึงเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ออกมาพูดถึงคุณค่าของ Bitcoin
Bitcoin ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินที่อ่อนค่าลง เช่น เวเนซุเอลา นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ใช้เพื่อโอนเงินจำนวนมากสำหรับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย
ซึ่งหมายความว่า การลดจำนวนของอุปทานในอนาคตประกอบกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้ราคาของ bitcoin สูงขึ้น อย่างไรก็ตามราคาของ Bitcoin ยังคงผันผวนในช่วงเวลาที่เฟื่องฟูถึงขีดสุดและตกต่ำสลับกันไปมา ยกตัวอย่างเช่น ราคา Bitcoin ที่วิ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในปี 2017 และหลังจากนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและลดลงสองครั้งจนถึงปี 2021
Elon Musk
เป็นที่รู้กันว่า มหาเศรษฐีผู้นี้ จะพูดอะไรกราฟราคาก็วิ่งขึ้นวิ่งลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงขั้นมีคนทำวิจัยว่า Elon Musk นั้นสามารถทำให้กราฟขยับได้จริงหรือไม่ แต่ผลการวิจัยออกมาก็ไม่ได้แน่ชัด มีก็แค่เพียงความเป็นไปได้เท่านั้นเอง

จากรูปจะเห็นเลยว่าการโพสต์ทวีตของ Elon Musk แต่ละครั้งจะสามารถทำให้ราคา Bitcoin ขยับได้แต่แท้จริงแล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรกราฟก็ขยับทุกเหรียญ
สรุป
ดูเหมือนว่าราคา Bitcoin ก็มีความสัมพันธ์ต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ ทุกสิ่งสามารถทำให้ Bitcoin ได้รับผลกระทบได้ แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถรับประกันได้ว่าราคา Bitcoin จะขยับมากหรือน้อย บางเหตุการณ์ทำให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ในทางกลับกันก็ร่วงลงอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามไม่วสามารถบอกได้ว่าปัจจัยไหนกันแน่ที่จะส่งผลต่อราคา Bitcoin อย่างรุนแรง ผู้เขียนมองว่าทุกปัจจัยล้วนมีความสำคัญ เท่า ๆ กันหมด อยู่ที่ความรุนแรงของสิ่งนั้น ๆ ที่เกิดขึ้นว่ามากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม อาจจะมีปัจจัยยิบย่อยอื่น ๆ ที่เหนือจาก 5 ปัจจัยนี้ด้วย
หมายเหตุ : การลงทุนในตลาดที่มีความผันผวนสูงควรศึกษาและระมัดระวังเป็นอย่างมาก

