<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“หาก Bitcoin มาแทนที่เงิน Fiat จะเป็นเหมือนฝันร้าย” กล่าวโดยอดีต รมว.คลังกรีซ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่การยอมรับของ cryptocurrency ทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องคริปโตถูกใช้เป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนและ

Yanis Varoufakis อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของกรีซพูดคุยกับ Kitco News กล่าวถึงความคิดของเขาเกี่ยวกับ crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin (BTC) ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดนอกเหนือจากเรื่องของทองคำและสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)

เมื่อไม่นานมานี้ Christine Lagarde หัวหน้าธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่าเธอคิดว่า “cryptocurrency นั้นไร้ค่า” Yanis พูดเกี่ยวกับท่าทางที่ยากลำบากของเธอโดยเขากล่าวว่า

“เธอพูดถูกเมื่อพูดถึงการใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน มีน้อยคนที่จะใช้ cryptocurrency ที่คุณรู้จักเพื่อทำธุรกรรมในแต่ละวันคนส่วนใหญ่ที่ซื้อหรือใช้จริงจะโอนมันนั้นคือการลงทุนมูลค่าของมันสำหรับผู้ใช้ Bitcoin ส่วนใหญ่และเหรียญตัวอื่น ๆ คือเพื่อประโยชน์ในการเก็งกำไร”

เป็นผลให้อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเชื่อว่า cryptocurrency เช่น Bitcoin จะไม่สามารถเข้าแทนที่เงิน fiat ได้

“ผมไม่เชื่อว่าผมจะเรียกมันว่าเป็นสิ่งที่มีอำนาจด้วยคำจำกัดความของ cryptocurrency อย่าง Bitcoin ที่จะมาแทนที่เงิน fiat มันเป็นสิ่งไม่ควรเกิดขึ้น, ไม่สามารถเกิดขึ้นและถ้ามันเกิดขึ้นมันจะเป็นเหมือนฝันร้าย”

มูลค่าในเทคโนโลยีบล็อกเชน

ดังที่ Yanis ได้กล่าวเขามั่นใจว่าธนาคารกลางที่ขับเคลื่อนโดยปราศจากเทคโนโลยีอย่างบล็อกเชนนั้นจะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังเขาได้ชี้ให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนได้เริ่มใช้สกุลเงินดิจิทัลของตนเองแล้วและกำลังได้เห็นประโยชน์ของมัน

เขาเชื่อว่าประเทศอื่น ๆ จะต้องการดำเนินการตามความเหมาะสมเมื่อพูดถึงการทำให้การค้าระหว่างประเทศสะดวกยิ่งขึ้นเมื่อทำการค้ากับจีน

“ธนาคารกลางยุโรปต้องการย้ายไปใช้เงินยูโรดิจิทัลและมีแรงจูงใจที่จะทำมันขึ้นมาด้วยหากพวกเขาไม่ทำเช่นนี้พวกเขาจะล้าหลังธนาคารกลางจีนและสกุลเงินดิจิทัลของจีน”

แม้ว่า Yanis รู้สึกว่าธนาคารกลางยุโรปกำลังได้รับอิทธิพลจากธนาคารพาณิชย์ในแฟรงก์เฟิร์ต, ปารีสและลอนดอน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการในลักษณะนี้ได้ในปัจจุบันเขากล่าวต่อว่า

“เราต้องการประชาธิปไตยในการควบคุมรัฐบาลของเรานั่นคือเหตุผลที่ผมเป็นผู้ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใช้ในบริบทของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในระดับหนึ่งเพื่อให้เราทุกคนรู้ว่าเงินจำนวนนี้อยู่ในระบบเท่าไรดังนั้นธนาคารกลางจึงไม่สามารถสร้างสภาพคล่องโดยที่เราไม่รู้ว่าพวกเขาสร้างเงินได้เท่าไร”

ท้ายที่สุดนี้ Yanis กล่าวว่าผลที่ได้คือจะไม่มีเงินที่ไร้เหตุผลเฉกเช่น Bitcoin หรือพวก Gold Bug ที่เชื่อว่าการแก้ปัญหาอำนาจของรัฐบาลคือการผูกโยงเงินทุนเอาไว้กับราคาทองคำหรือแร่เงิน