ตั้งแต่ปี 2016 อาร์เจนตินาได้พยายามต่อสู้กับวิกฤตเงินเฟ้อ อันเป็นผลมาสาเหตุจากปัจจัยหลายประการ เช่น การขาดความไว้วางใจในธนาคารกลางหรือการใช้จ่ายของรัฐบาล การเสื่อมมูลค่าของเงินเปโซที่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อกำลังซื้อของพลเมือง
ปัจจัยทั้งหมดส่งผลทำให้เงินออมของชาวอาร์เจนตินาหายไปในอากาศ ด้วยเหตุนี้ชาวอาร์เจนตินาจำนวนมากจึงเริ่มหันไปใช้ Bitcoin ( BTC ) และ Crypto เพื่อต่อสู่กับภาวะเงินเฟ้อ แม้ว่าตลาดคริปโตจะอยู่ในภาวะตกต่ำเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน และได้รับคำเตือนจากธนาคารกลางที่สั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
ตามรายงานจากสำนักข่าว Reuters เผยว่า ค่า “crypto penetration rate” ในอาร์เจนตินาเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 12% หรือเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับสกุลเปรู เม็กซิโก และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
นอกจาก Bitcoin แล้ว ชาวอาร์เจนติน่ายังหันมาใช้เหรียญ Stablecoin มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยใช้เป็นวิธีเก็บรักษามูลค่าแทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศของพวกเขามีกฏการจำกัดเงินทุนที่เข้มงวดสำหรับบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เมื่อ Vitalik Buterin ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ไปเยือนอาร์เจนตินาในเดือนธันวาคม เขากล่าวว่า การยอมรับ cryptocurrency ในประเทศกำลังเพิ่มขึ้นและการยอมรับ stablecoin ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน แต่เขาเตือนว่าแนวโน้มนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ดูเหมือนว่าอาร์เจนตินากำลังใช้แนวทางที่ระมัดระวังในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยในการสัมภาษณ์ผ่าน Youtube ในปี 2021 ประธานาธิบดี Alberto Fernandez ของอาร์เจนตินากล่าวว่า
“มีการพูดคุยกันอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล มันถือเป็นการอภิปรายระดับโลก แต่ผมต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก”
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Fernandez มองโลกในแง่ดีว่า “crypto นั้นมีข้อได้เปรียบที่สำคัญ” เพราะ “มันช่วยควบคุมเงินเฟ้อได้” และ “ในแง่อีกหนึ่ง มันคือสินทรัพย์ที่มั่นคง”
ที่มา : cointelegraph