ด้วยตอนนี้ที่สภาพการณ์ของตลาดคริปโตที่เติบโตขึ้นจนมีนักลงทุนหน้าใหม่ที่สนใจในคริปโตมากมาย ร่วมถึงนักลงทุนหน้าเก่าทั้งหลายที่บางทีเจอคำศัพท์แปลก ๆ แล้วก็นึกสงสัยว่า มันหมายความว่าอะไรกันแน่ แล้วในปี 2022 ในปัจจุบันมีคำศัพท์แปลก ๆ บ้างหรือเปล่า หรือ มีคำศัพท์ที่ไม่เคยผ่านตามาก่อนบ้างหรือไม่
โดยวันนี้ทาง สยามบล็อกเชน จะรวมคำศัพท์ด้านคริปโต ทั้งเก่าและใหม่ มามัด ๆ รวมกันเพื่อให้เพื่อน ๆ เข้าใจกันได้ง่ายขึ้นเพื่อเป็นไกด์ให้กับผู้ที่กำลังสนใจหรือต้องการหาความรู้ทางด้านคริปโต
รวมคำศัพท์คริปโตที่ควรรู้
To the moon, to da moon, moon = ราคาของเหรียญขึ้นสูงมาก มากจนเอาไปเปรียบกับดวงจันทร์
เช่น ราคาของ dogecoin ที่ราคาพุ่งสูง เป็นแท่งเขียวยาว ๆ
วาฬ, เจ้ามือ = ผู้ที่ซื้อรายใหญ่ ที่ซื้อเหรียญไว้เป็นจำนวนมาก ๆ
เช่น มีเจ้ามือซื้อ Bitcoin จำนวน 1 แสน Bitcoin ราคาร่วงก็ซื้อช้อนซื้ออีก
เม่า = ผู้ซื้อรายเล็ก ที่ซื้อไว้เป็นจำนวนเล็ก ๆ
เช่น เม่าซื้อ Bitcoin จำนวน 0.0001 Bitcoin ราคาร่วงก็จิตใจหวั่นไหว
HODL = ย่อมาจาก Hold on for dear life ซึ่งสามารถเข้าใจได้ว่า เป็นสายถือยาว ถือไว้ไม่ยอมขาย
เช่น ดอย เหรียญ SHIB เอาไว้จึงถือยาว ไม่ยอมขายไม่ว่าราคาจะลงไปเท่าไร
Oracle = คือคนใส่ข้อมูลเข้าสู่ บล็อกเชน เพื่อให้ผู้พัฒนานำข้อมูลไปใช้งานต่อ
FUD = ย่อมาจากคำว่า Fear, Uncertainty, และ Doubt สามอย่างนี้ ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย หากมีคนใดคนหนึ่งไปเล่นกับสิ่งเหล่านี้ ผู้ที่อ่านมักจะคล้อยตามและเชื่อในที่สุด เพราะมันเหมือนเป็นการเล่นกับอารมณ์และความรู้สึกของนักลงทุนเช่น การประโคมข่าวว่ามีกระดานเทรดแห่งหนึ่งที่อาจจะไปไม่รอดให้รีบขายเหรียญทั้งหมดทิ้งซะ
Memecoin = เหรียญที่ถูกสร้างขึ้นโดยอิงจากมีมต่าง ๆ ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในขณะนั้น
เช่น Dogecoin และ มีมของเจ้าหมา
Rekt : = แพ้อย่างหมดท่า อ่านว่า เร็กต์
เช่น เหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการ FOMO และคุณเชื่อในแรงกลัวตกรถเหล่านั้น จนสุดท้ายราคาเหรียญก็ได้ตกลงอย่างรวดเร็ว จนสูญเสียเงินไปยับเยิน
Pump and Dump = ปั๊มราคาเหรียญ แล้วพอราคาสูงขึ้นก็จะแลกเปลี่ยนเงินเหล่านั้นออกไปเป็นเงิน Fiat หรืออย่างอื่นเช่น เหรียญ ๆ หนึ่งมักจะมีการโปรโมทให้มาร่วมลงทุนพอราคาเหรียญสูงขึ้น ๆ ก็เทขายเพื่อหอบเงินหนีไปในทันที
Rug Pull = คือการที่เจ้าของเหรียญจะสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาเพื่อให้นักลงทุนแห่ไปลงทุน เมื่อราคาเหรียญมีมูลค่าสูงขึ้น เจ้าของเหรียญก็จะทำการเทขายเหรียญทั้งหมดจนราคาตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว
เช่นแพลตฟอร์ม AnubisDAO ที่ได้ระดมทุมเป็นจำนวนมากและภายหลังมีการโอนเงินผู้ลงทุนออกจากแพลตฟอร์มหลังเปิดให้บริการเพียง 20 ชั่วโมง มูลค่าความเสียหาย 58.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.9 พันล้านบาท
Altcoin : คือเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Bitcoin
เงิน Fiat = เงินสด
FOMO : ย่อมาจาก Fear Of Missing Out หรือพูดง่าย ๆ ก็คือการกลัวตกรถนั่นเอง
เช่น มีเหรียญที่กำลังเป็นนิยมและคนก็แห่กันไปซื้อเหรียญนั้นจนราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
ตลาดกระทิง = มาจากคำว่า Bullish ซึ่ง Bull แปลว่ากระทิง ตลาดกระทิงคือ ตลาดขาขึ้น สีเขียวคือเพื่อนของเราในช่วงตลาดกระทิงเช่น ทุกเหรียญอยู่ช่วงตลาดขาขึ้นหมด มีแต่สีเขียวเต็มไปหมดเลย
ตลาดหมี = มาจากคำว่า Bearish ซึ่ง Bear แปลว่าหมี ตลาดหมีคือ ตลาดขาลง สีแดงคือเพื่อนของเราในช่วงตลาดหมีเช่น ทุกเหรียญอยู่ช่วงตลาดขาลงหมด มีแต่สีแดงเต็มไปหมดเลย
ICO = ย่อมาจาก Initial Coin Offering คือวิธีการระดมทุนสำหรับโปรเจกต์คริปโตตัวใหม่
เช่น มีโปรเจกต์ขายเหรียญเกิดขึ้นมาใหม่ ก็จะมีระดมทุนโดยการขายเหรียญ หรือ โทเคน โดยการซื้อเหรียญ หรือโทเคนดังกล่าวจะต้องใช้เหรียญคริปโตในการซื้อ
GameFi = คือ เกมที่เล่นแล้วได้เงิน ย่อมาจาก Game และ Finance หรือที่คุ้นหูในคำว่า Play-to-Earn
เช่น เกม Axie Infinity
DYOR = ย่อมาจากคำว่า Do your own research หรือก็คือการที่จะต้องหาความรู้ด้วยตัวเองด้วย เพราะการลงทุนมากพร้อมกับความเสี่ยงหากไม่หาความรู้ด้วยตัวเองก็อาจจะหมดเงินได้ การซื้อเหรียญคริปโตตาม เจ้ามือ หรือใครก็ตามอาจจะไม่ใช่คำตอบเสมอไปเช่น เวลามีคนมาบอกว่า พรุ่งนี้ เหรียญ … มูนแน่ ๆ คนก็แห่ไปลงโดยไม่ศึกษา สุดท้ายราคาเหรียญไม่พุ่งตามที่โฆษณา
Hard Fork = เป็นความเห็นไม่ลงรอย, ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในกลุ่มนักพัฒนาของโปรเจกต์ หรือเป็นการลงมติปรับปรุงเครือข่ายบล็อกเชนแบบเร่งเด่ง ในช่วงวิกฤตเพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ และตั้งค่าระบบต่าง ๆ ใน Blockchain เพื่อให้นักขุดทุกคนใช้งานโปรโตคอลเวอร์ชันเดียวกันได้ เป็นการลดช่องโหว่และแก้ไขข้อผิดพลาด โดนระบบจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ทั้งนี้ การทำ Hard Fork แต่ละครั้งมักมีเหรียญคริปโต เหรียญใหม่เช่น LUNA 2.0 และ LUNA Classic
ขายหมู = มักจะเกิดจากการที่ตนเองได้กำไรมาบ้างแล้ว แล้วกลัวว่าราคามันอาจจะปรับตัวลงจึงรีบขายเหรียญที่ถือไว้ ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเช่น ถือเหรียญ KUB ที่ซื้อไว้ 90 บาท พอราคาขึ้นไป 200 บาทแล้วจึงขาย แต่หลังจากนั้นเหรียญ KUB พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงไปถึง 500 บาท
Lambo = ราคาเหรียญพุ่งสูงมากจน รู้สึกว่ารวยขนาดที่จะซื้อรถ Lamboghini ได้แล้ว
Cut Loss = คือการที่เรายอมขาดทุน เจ็บแต่จบ ก่อนที่เงินจะเหลือน้อยกว่านี้
เช่น ซื้อเหรียญ KUB ตอนราคา 500 บาทเพราะคิดว่าจะขึ้นอีก แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อราคาร่วงมา 400 บาทจึงตัดสินใจ cut loss เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเงินไปมากกว่านี้
All in = ใช้เงินทั้งหมดในการลงทุนในครั้งเดียว
เช่น มีเงินในบัญชีและพอร์ท 5,000 บาท และตัดสินใจลงทุนไปทั้งหมด
ติดดอย = คือการที่เราซื้อคริปโตนั้นในราคาที่สูง แต่ปัจจุบันราคานั้นต่ำกว่าราคาที่ซื้อมากและไม่รู้ว่าต้องรออีกนานเท่าไรกว่าจะกลับมาคืนทุนได้อย่างเดิมเช่น ซื้อเหรียญ KUB ตอนราคา 500 บาทเพราะคิดว่าจะขึ้นอีก แต่ไม่เป็นอย่างนั้นเมื่อราคาร่วงมา 400 บาท จน 200 บาท และยังร่วงลงเรื่อย ๆ แต่ไม่ยอม cut loss จะถือรอไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็ถือว่าติดดอย
Weak hand = จะคล้าย ๆ กับนักลงทุนที่มีมืออ่อนแอ รับแรงกดดันของตลาดคริปโตไม่ไหวหรือ นักลงทุนบางรายที่เกิดอาการ Panic เมื่อราคาย่อลงเล็กน้อยก็จะทำการรีบขายออกไปอย่างรวดเร็ว
Diamond hand = ตรงกันข้ามกับ Weak Hand อย่างสิ้นเชิง ด้วยความที่มีความอดทน มั่นคง การผันผวนของราคาไม่มีผลอะไรกับคนประเภท Diamond Hand เปรียบเสมือนเพชรที่แข็งแกร่ง !
Safu = คือ การที่เงินของเราถูกรักษาความปลอดภัยในระดับ Safu ซึ่งคำ ๆ นี้มาจาก CZ แห่ง Binance ได้พูดคำว่า Safe แต่ว่าเขาได้ออกเสียงเป็น Sa-fu (เซ-ฟุ) นั่นเอง
Bearish = สภาวะตลาดขาลง ที่มีการทุบราคาเปรียบเสมือนหมีที่มักจะทุบเหยื่อ
Bullish = สภาวะตลาดขึ้น การพุ่งขึ้นของราคาเปรียบเสมือนกระทิงเวลาควิดที่จะงัดเหยื่อขึ้น
สรุป
คำศัพท์ในตลาดคริปโตยังมีอีกมากมาย แต่ที่เห็นบ่อย ๆ ก็มักจะเป็นคำเหล่านี้ และมีอีกหลายคำที่วันนี้เราไม่ได้เอาใส่ไว้ อย่างไรก็ตามต่อไปหากเห็นคำศัพท์พวกนี้ที่ไหนละก็มั่นใจได้เลยว่านักลงทุนไม่ว่าหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็จะสามารถอ่านได้เข้าใจ และได้อรรถรสเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน