<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ลิทัวเนียสั่งห้ามใช้กระเป๋าเงินที่ไม่ระบุตัวตนตามกฏระเบียบของสหภาพยุโรป

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กระทรวงการคลังของลิทัวเนียสั่งห้ามใช้กระเป๋าเงินที่ไม่ระบุตัวตน (Custody wallet) และกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับกระดานแลกเปลี่ยน Crypto ในประเทศเพื่อพยายามต่อสู้กับการฟอกเงิน, การจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย และการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตร โดยกระทรวงระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรอการตัดสินใจของสหภาพยุโรป

ลิทัวเนียแบนกระเป๋าเงินที่เป็นเจ้าของด้วยตัวเอง

รัฐบาลลิทัวเนียกำลังมองหาวิธีที่จะผ่านร่างกฎหมายใหม่เพื่อกระชับกฎระเบียบของคริปโตและสั่งห้ามใช้กระเป๋าเงินที่ไม่ระบุตัวตน

ตามที่กระทรวงการคลังอนุมัติการแก้ไขร่างกฏหมายเมื่อวันพุธ “กฎหมายป้องกันการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย” นั้นมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความโปร่งใสของภาคส่วนสกุลเงินดิจิทัล ในขณะเดียวกันก็จะเป็นการรับประกัน “การพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน” ถึงกระนั้นการแก้ไขร่างกฏหมายจำเป็นจะต้องได้รับการอนุมัติจาก Seimas ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติของลิทัวเนีย ก่อนที่จะผ่านเข้าสู่กระบวนกฎหมายต่อไป

ร่างกฎหมายดังกล่าวพยายามที่จะห้ามการสร้าง “กระเป๋าเงินที่ไม่ระบุตัวตน” เพื่อเป็นกระชับกฎระเบียบ KYC สำหรับกระดานแลกเปลี่ยน crypto และกำหนดให้พนักงานของกระดานแลกเปลี่ยนในลิทัวเนียทุกคนต้องเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในลิทัวเนีย นอกจากนี้นายทะเบียนของฝ่ายนิติบุคคลยังจะกำหนดให้ชื่อของผู้ประกอบการแลกเปลี่ยน crypto กลายเป็นแบบสาธารณะอีกด้วย

กระทรวงการคลังลิทัวเนียให้เหตุผลว่า มาตรการเหล่านี้มีส่วนช่วยในการต่อสู้กับปัญหาการฟอกเงิน, การจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย, การหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากรัสเซียและเบลารุส และความเสี่ยงด้านชื่อเสียงสำหรับผู้เข้าร่วมตลาดลิทัวเนียและรัฐลิทัวเนีย

รมว. คลังริทัวเนีย Gintarė Skaistė กล่าวว่า รัฐบาลกำลัง “ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเสริมสร้างกฎระเบียบในระดับชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการตัดสินใจครั้งต่อไปในระดับ [สหภาพยุโรป]”

จำนวนบริษัทด้านคริปโตกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในลิทัวเนีย สวนทางข้อจำกัดที่เข้มงวดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างเอสโตเนีย ในขณะที่มีเพียง 8 บริษัทด้าน crypto ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 โดยกระทรวงการคลังระบุว่าหน่วยงานใหม่มากกว่า 220 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นในลิทัวเนียตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่มา : cryptobriefing