การขุด Bitcoin เป็นเรื่องของการแข่งขันกันในตลาดถ้าคุณกำลังซื้อไฟฟ้าในราคาถูกเพียงพอเพื่อรักษาผลกำไรให้มีอยู่หรือคุณอาจไม่ได้ซื้อ หากคุณไม่ได้ซื้อเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะถูกบังคับให้เทขาย Bitcoin และล้มเลิกกิจการในการขุดไป
เป็นไปได้ว่าราคาของพลังงานจะยังคงสูงขึ้นต่อไปซึ่งนั่นก็ทำให้เหมืองต้องลงทุนสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนั่นอาจทำให้กิจการนี้ได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า
ความกลัว, ความไม่แน่นอนและความสงสัยแฝงอยู่ในคณิตศาสตร์
นักขุด Bitcoin ที่เทขาย Bitcoin ออกไปอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่และเหตุใดเราจึงต้องการให้กลุ่มผู้ถือระยะยาวเก็บทุกเหรียญที่พวกเขาเคยขุดไว้? การกระจายเหรียญเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดสรรเหรียญอย่างเหมาะสม เพื่อส่งต่อไปยังผู้ที่ต้องการยกเลิกระบบการเงินในปัจจุบัน
Bitcoin อาจจะถือเป็นสิ่งแรกและสำคัญที่สุดเกี่ยวกับการกระจายอำนาจและการเสริมอำนาจส่วนบุคคล
นักขุดหลาย ๆ คนจะมองทางเลือกในการที่จะขายเป็นทางสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือระดับองค์กรพวกเขานั้นขุดเพราะพวกเขาต้องการ Bitcoin ไม่ใช่เพียงเพราะการหารายได้ตามกระแสแรงขายในตลาดอาจไม่ส่งผลอะไรมาก
มันบ่งบอกถึงต้นทุนส่วนที่เพิ่มขึ้นมาในการผลิต Bitcoin ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของ Bitcoin ที่ทำให้มันมีมูลค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงิน Fiat ต้นทุนส่วนเพิ่มขึ้นมาในการผลิตเงิน Fiat นั้นคืออะไร? ก็คือการที่ Jerome Powell ประธาน Fed นั้นพิมพ์เงินออกมารัว ๆ
ในโซลูชันของ 0xStacker บอกไว้ว่ากลไก proof-of-stake นั้นผู้ที่ stake จะไม่มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากภาษีเงินได้ เนื่องจากอิทธิพลที่พวกเขามีต่อเครือข่ายจากกา stake
คนที่มีเหรียญในมือมาก ๆ จึงได้รับแรงจูงใจให้ถือเหรียญของตนเพื่อใช้อำนาจในการควบคุมเครือข่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทางทฤษฎี ผู้ที่ stake รายใหญ่หรือกลุ่มพาร์ทเนอร์ของพวกเขา (เช่น เว็บเทรดใหญ่ ๆ) สามารถรวมตัวกันและเข้ายึดเครือข่ายการ Proof-of-Stake ได้อย่างสมบูรณ์ก่อให้เกิดแรงจูงใจผลักดันในการรวมศูนย์ ยิ่งมีมาก ยิ่งได้มาก
นั่นแหละจึงควรมีอะไรซักอย่างที่ตอบโจทย์ในเรื่องการเอาตัวเองออกมาจากการรวมศูนย์ซึ่งบางทีเราอาจจะเจอมันแล้วในรูปแบบของสมการคณิตศาสตร์ที่คุณต้องแก้ปัญหานั้นเพื่อแลกมาซึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์ในการหนีออกจากการรวมศูนย์และสิ่ง ๆ นั้นก็คือ Bitcoin
แรงจูงใจในการขุด
Bitcoin เป็นอะไรที่ทำให้เกิดแรงจูงใจที่สามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานและนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่โลกของมนุษย์ ในบทความล่าสุดโดย Level39 เขานำเสนอเทคนิคที่ใช้ความแตกต่างของอุณหภูมิในน้ำทะเลเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
ในทางทฤษฎีมีเทคโนโลยีนี้มานานกว่า 100 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม แรงจูงใจสำหรับการพัฒนาที่แท้จริงนั้นยังไม่มีอยู่จริง จนกระทั่งมีการพัฒนาระบบการเงินแบบกระจายอำนาจที่ใช้พลังงานเป็นหลักซึ่งสามารถสร้างรายได้จากไฟฟ้าได้ ระบบนั้นก็คือ Bitcoin
จำนวนที่เพิ่มขึ้นเสรีภาพก็เพิ่มขึ้น
โดยพื้นฐานแล้ว Proof-of-Stake คือระบบที่ยิ่งคุณมีเงินมากเท่าไร คุณก็จะได้เงินมากขึ้นเท่านั้น และคุณก็จะได้รับการควบคุมมากขึ้นเท่านั้น
“เหตุใดนักลงทุนจึงเลือกที่จะเก็บมูลค่าไว้ในระบบโทเค็นที่มูลค่ารั่วไหล ได้ในเมื่อสามารถเลือกเก็บในตัวที่มูลค่าไม่รั่วไหลได้, มีศักยภาพในความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและมีอุปทานที่ลดลงซึ่งนำไปสู่การสะสมมูลค่าในโทเค็น”
ยิ่งคุณมี Bitcoin ในการถือครองและ Bitcoin กระจายอยู่ในมือของคนที่สามารถเข้าถึงได้เสรีภาพที่แท้จริงก็จะเป็นสิ่งที่คนเหล่านั้นสามารถจับต้องได้ การเงินที่ไร้ตัวกลางควบคุม, รวดเร็ว, ไม่มีขอบเขตในเรื่องของพรมแดนและมีความปลอดภัยที่สูงนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในการใช้งานอนาคตข้างหน้า
บางที Bitcoin อาจจะเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบในตัวของมันเองอยู่แล้วเพียงแค่รอการใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ว่าใครนั้นคือของจริง