อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าช่วงนี้เป็นช่วงตลาดขาลง หลายเหรียญประสบปัญหาอย่างการที่ราคาของเหรียญร่วงลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ถึงอย่างนั้นสิ่งที่นักลงทุนอย่างเรา ๆ มักจะกลัวมากที่สุดก็คงจะไม่พ้นการที่เราลงทุนเหรียญนั้นแล้วแล้วเหรียญนั้นมันหายไป หรือเหรียญ โทเค็นดังที่เราถือครองอยู่มัน สูญสิ้นมูลค่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่การที่เหรียญมันจะสูญสิ้นมูลค่าก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้สกุลเงินดิจิทัลไม่อยู่รอด โดยมีหลายเหรียญที่ราคาเหรียญพุ่งขึ้นสูงในช่วงหนึ่ง ไม่ว่าจะเกิดมาจากการทื่เหรียญนั้นโดนปั่นหรืออย่างไรก็ตาม แต่พอถึงช่วงหนึ่งราคาเหรียญก็จะกลับมาอยู่ในระดับที่น้อยกว่าเดิมอย่างมาก และในปัจจุบันก็มีเหรียญคริปโตในตลาดมากกว่า 10,000 เหรียญแล้ว
อย่างเหรียญที่เราพอจะนึกออกว่าเหรียญที่โดนปั่นเป็นอย่างไรก็คงหนีไม่พ้นเหรียญตัวอย่างอย่าง Dogecoin ที่หลายคนออกมาบอกว่า CEO ของ Tesla อย่าง Elon Musk เป็นคนปั่นราคาเหรียญทำให้เหรียญราคาเพิ่มขึ้นสูงและ สุดท้ายก็ไม่สามารถยั่งยืนอยู่ได้ตามเราที่วาดฝัน อย่างไรก็ตาม การที่เหรียญมูลค่าลดลงไม่ได้มีเพียงแค่โดนปั่นเหรียญเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย อาทิเช่น
– การฉ้อโกงและการหลอกลวง
– ล้มเหลวในการจัดทำแผนธุรกิจ
– โดนลาก
– ปัญหาจากนักพัฒนา
1. LUNA CLASSIC
เหรียญในเครือ Terra ซึ่งเกิดวิกฤตการณ์มูลค่าหลุด Pegจากการที่ราคาของ Bitcoin ตกต่ำอย่างไรก็ตาม การที่ราคาร่วงอย่างรุนแรงทำให้นักลงทุนหลายคนเกิดความหวาดกลัวจนกระทั่งเกิดการเทขายพร้อมกันทำให้ราคาร่วงไปจนถึง 0 บาท และนั่นเป็นตัวที่ทำให้นักลงทุนเกิดความความไม่เชื่อมั่นต่อจากนั้นถึงแม้ว่าภายหลังแล้วจะมีการสร้างเหรียญและสร้างเครือข่ายใหม่ขึ้นมาก็ตาม
2. UST Stablecoin
อย่างที่รู้กันว่า UST เป็น Stablecoin ของเครือข่าย Luna ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมราคาได้ร่วงต่ำกว่าระดับ $0.99 เป็นครั้งแรก จากปกติจะไซด์เวย์อยู่ในโซน 0.99-1.00 ดอลลาร์มาโดยตลอด
หลังจากหลุด Peg แล้ว UST ยังอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ โดยปรับลงทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $0.2998 และสุดท้ายไม่เหลือมูลค่าอะไร เช่นเดียวกันกับ LUNA CLASSIC
3. Chainlink
Chainlink เป็นเครือข่าย Oracle แบบกระจายศูนย์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางช่วยให้บล็อกเชนสามารถโต้ตอบกับข้อมูลภายนอก เหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงช่วยให้ชำระเงินได้อย่างปลอดภัย แม้ว่า LINK จะเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเหรียญ LINK ได้ร่วงลงแต่ในวันนี้ราคาของ Link ก็ได้เพิ่มขึ้นจากใน 24 ชั่วโมงกว่า 13%
โดยราคาของ Link นั้น ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ $52 และราคาปัจจุบันอยู่ที่ $7
4. Zilliqa
Zilliqa เป็นเครือข่าย ตัวแรกที่นำเทคโนโลยี Sharding หรือการแบ่งข้อมูลกันประมวลผลภายในบล็อกเชน ทำให้การประมวลผลสามารถเกิดขึ้นได้แบบคู่ขนาน (Parallel processing) จึงเป็นการเพิ่มความเร็วโดยรวมของเครือข่ายหลายพันรายการต่อวินาที
โดยราคาของ Zil นั้นมีราคาสูงสุดอยู่ที่ $0.2 และราคาปัจจุบันอยู่ที่ $0.04 ซึ่งราคายังคงห่างไกลจากจุดสูงสุดเดิมมาก ถึงแม้ว่าในวันนี้ ราคา Zil จะมีการฟื้นตัวบางแล้วก็ตาม
5. Celcius (CEL)
แพลตฟอร์มกู้ยืมเงินคริปโต ที่ดูท่าใกล้จะล้มละลาย อาจจะเพราะตลาดหมีที่ไม่เป็นใจในช่วงนี้ทำให้บริษัทสินเชื่อคริปโตมีปัญหาในทำนองเดียวกัน และอาจเป็นไปได้ที่จะมีอนาคตลงเอ่ยคล้ายกับ LUNA อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างมีความกังวลว่า ถ้า Celcius ล้มละลายไปจริง อาจจะสามารถที่จะฉุดดึงราคาของ Bitcoin ให้ลงร่วงลงไปอีกจากเดิมที่แย่อยู่แล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงเช่นนี้ก็เป็นเพราะแพลตฟอร์มได้ทำการระงับการทำธุรกรรมในแพลตฟอร์มทุกช่องทางรวมถึงได้มีการโอนเงินออกไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Celcius เคยมีการซื้อขายราคาสูงสุดอยู่ที่ $8 แต่ปัจจุบันราคาร่วงลงมาอยู่ที่ราว ๆ $1 เท่านั้น
สรุป
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเหรียญคริปโตจำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งบางเหรียญก็ยังคงเปิดให้ทำการรเทรดอยู่ และบางเหรียญก็ถูกเพิกถอนออกไปใน CoinMarketCap จากเรื่องราวทั้งหมดนี้จะเห็นได้เลยว่าเหรียญบางเหรียญก็มีช่วงเวลาของมัน เมื่อหมดช่วงโปรแล้วเหรียญก็เริ่มไร้ค่า หาได้มีราคามากมายเหมือนเช่นตอนแรก อย่างที่รู้ว่าตลาดคริปโตเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงอย่างมาก ซึ่งมาถึงในจุดนี้จึงเป็นสิ่งที่สามารถบอกได้เลยว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้
นับตั้งแต่การล่มสลายของ Terra และสิ่งที่นักลงทุนหลายคนกำลังกังวลานับจากนี้คือการเกิดขึ้นซ้ำในแบบเดียวกันแต่เป็นกับเหรียญอื่น ดังนั้น ทางสยามบล็อคเชนของเราก็จึงอยากจะขอให้นักลงทุนทุกท่านได้ดูแลความเสี่ยงในการลงทุนของทุกท่านและจะขอเป็นกำลังใจในการเทรดในช่วงตลาดขาลงหรือตลาดหมีที่ย่ำแย่นี้ต่อไป