ลูกค้าได้ถอนเงินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์จากธนาคาร JPMorgan Chase ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอเมริกาในปีที่แล้วท่ามกลางวิกฤตธนาคาร
รายงานผลประกอบการล่าสุดของ JPMorgan สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปีนี้แสดงให้เห็นว่า หากไม่นับรวมเงินฝากจาก First Republic Bank ที่ธนาคารได้รับเมื่อปีที่แล้ว ลูกค้าฝากเงินลดลง 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยปีก่อนหน้านั้นลูกค้าได้ฝากเงินอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ และปีล่าสุดลดเหลือ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์
การลดลงของเงินฝากเกิดขึ้นท่ามกลางการสำรวจความคิดเห็นของ Gallup ที่สะท้อนให้เห็นผลสำรวจที่คล้ายกันในปี 2008 ซึ่งเป็นก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งพบว่าชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งกังวลเกี่ยวกับเงินทุนที่พวกเขาเก็บไว้ในธนาคาร
“หลังจากการล้มละลายของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐเมื่อเร็ว ๆ นี้ ชาวอเมริกันประมาณครึ่งหนึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเงินที่ฝากไว้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ๆ”
“ซึ่งเทียบเท่ากับระดับความกังวลที่วัดได้ในช่วงวิกฤตการเงินในปี 2008 เมื่อสถาบันการเงินที่เคยเชื่อว่า ‘too big to fail’ ได้ล้มละลายลง”
ในรายงานผลประกอบการของ JPMorgan CEO นาย Jamie Dimon กล่าวว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างหนึ่งที่ธนาคารกำลังเผชิญก็คือ ลูกค้ากำลังเผาผลาญเงินสำรองของพวกเขาท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมาก
“ยังมีความเสี่ยงที่มองเห็นได้ชัดอีกมากในปัจจุบันที่ผมได้เขียนในปีที่ผ่านมา”
“ลูกค้ากำลังใช้เงินสดสำรองอย่างช้า ๆ อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ทำให้อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นและคงสูงขึ้นไปอีกนาน การดึงเงินออกจากระบบในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้น การขาดดุลทางการคลังจำนวนมาก และสงครามในยูเครนที่กำลังดำเนินต่อไป ซึ่งสิ่งนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก”
แม้ว่าจะเงินฝากที่ลดลง แต่อัตรากำไรของธนาคาร JPMorgan ยังคงพุ่งสูงขึ้น
ธนาคาร JPMorgan ได้รายงานว่าผลกำไรรายไตรมาสได้เพิ่มขึ้น 67% ซึ่งสูงถึง 14.47 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน
Source: DailyHodl