การเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่นั้นได้เปิดโอกาสใหม่ๆ กับโลกใบนี้ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นช่องทางให้กับอาชญากรรมไซเบอร์ได้เช่นกัน
มีรายงานเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ของประเทศลึกลับอย่างเกาหลีเหนือว่าในครึ่งปีที่ผ่านมา ได้ขโมยเงินจากคริปโตไปแล้วกว่า 180 ล้านดอลลาร์
นอกจากจะเปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจนี้แล้ว หน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ ก็ได้รายงานเสริมว่า การโจมตีของเกาหลีเหนือนั้นเป็นการโจมตีกันอย่างเป็นระบบ โดยพุ่งเป้าหมายไปที่แพลตฟอร์มเทรดคริปโตต่างๆ สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ที่ต้องพัฒนาขึ้นไปมากกว่านี้
และมีรายงานจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหรัฐอเมริกา ที่ได้เปิดเผยในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า แฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือได้ขโมยเงินคริปโตไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์แล้ว
กลุ่มแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือถูกเรียกว่า Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะถูกพูดถึงบ่อยๆ เวลามีข่าวเกี่ยวกับการขโมยเหรียญคริปโตต่างๆ อีกด้วย
และเหยื่อรายล่าสุดของกลุ่มนี้คือ Coinspaid ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการชำระเงินคริปโต ได้ถูกขโมยเงินไปกว่า 37 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากกลุ่ม Lazarus
จากรายงานของ Bitcoinist บริษัท Coinspaid ได้บอกว่าพนักงานของพวกเขาถูกหลอกให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ในระหว่างการสัมภาษณ์งานปลอม โดยไม่คาดคิดว่าจะถูกโจมตีแต่อย่างใด
และเป็นผลทำให้ แฮ็กเกอร์ สามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทได้
“หลังจากที่แฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินของ Coinspaid ได้ แฮ็กเกอร์ก็ได้ใช้ช่องโหว่ในคลัสเตอร์และเปิด Backdoor”
Coinspaid กล่าว
ที่มา: Bitcoinist