ในปี 2012 โลกทั้งใบต่างตื่นตระหนกกับคำทำนายวันสิ้นโลกของชาวมายา ซึ่งเชื่อกันว่าโลกจะถึงจุดจบในวันที่ 21 ธันวาคม 2012 เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความตื่นกลัวและความสับสนไปทั่วโลก ผู้คนจำนวนมากต่างพากันเตรียมตัวรับมือกับวันสิ้นโลกในรูปแบบต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ ชายฮ่องกงวัย 40 รายหนึ่งที่ตัดสินใจลาออกจากงาน ขายบ้าน ขายรถ และเปลี่ยนทรัพย์สินทุกอย่างให้เป็นเงินสด เพื่อจ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่ายก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก
ชายฮ่องกงรายนี้เป็นพนักงานบริษัท IT ชาวฮ่องกง ทำงานเป็นพนักงานไอทีในบริษัทแห่งหนึ่ง เขาเป็นคนประหยัดและมัธยัสถ์มาโดยตลอด แต่หลังจากทราบข่าวคำทำนายวันสิ้นโลก เขาก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลและกลัวตาย เชื่อว่าโลกกำลังจะมาถึงจุดจบ และเขาจะไม่มีเวลามาเสียดายเงินอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานและขายบ้าน ขายรถ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ทั้งหมดของเขา เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสด
จากนั้นเขาได้ใช้เงินนี้ไปกับการท่องเที่ยว ทานอาหารภัตตาคาร พักในโรงแรมหรู ซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง และใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย เขาเดินทางไปทุกที่ที่อยากไป ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา หรือเอเชีย เขาจองโรงแรมที่ดีที่สุด กินอาหารที่ดีที่สุด และซื้อเสื้อผ้าราคาแพงที่สุด
เขาไม่ฟังคำเตือนจากครอบครัวและคนรอบข้าง จนเมื่อวันในคำทำนายมาถึง เขาก็ต้องเผชิญกับความเสียใจอย่างมากที่โลกไม่ได้แตกตามคำทำนาย และตัวเขากลับต้องเผชิญกับสภาวะหมดตัว ไม่มีงานทำ และกลับไปสมัครงานได้ยากเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ ชีวิตของเขาจึงเหมือนกับต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง
ความเชื่อมั่นที่มากเกินไป นำมาซึ่งความเสี่ยงที่จะต้องเสียใจทีหลัง
เหตุการณ์ของชายฮ่องกงข้างต้นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการ “All-in” ในการเทรดคริปโตได้เป็นอย่างดี
“All-in” คือการเทรดโดยใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ไปกับสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดีหากสินทรัพย์นั้นเกิดมูลค่าลดลง เช่นเดียวกับชายฮ่องกงที่ใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ไปกับการใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเขาก็สูญเสียเงินไปทั้งหมด
ในการเทรดคริปโตนั้น สิ่งสำคัญคือต้องลงทุนอย่างมีสติและรอบคอบ ไม่ควรลงทุนโดยใช้เงินทั้งหมดที่มีอยู่ เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เช่น ตลาดคริปโตถล่มหรือสินทรัพย์ที่ลงทุนเกิดมูลค่าลดลง ก็อาจทำให้คุณสูญเสียเงินจำนวนมากได้
นอกจากนี้ การลงทุนในคริปโตนั้นยังมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นจึงควรศึกษาข้อมูลและเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
ที่มา: Pantip