Grayscale กองทุนเพื่อการลงทุนคริปโตที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) มากกว่า 5.2 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เพิ่งได้รับชัยชนะเหนือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ในการเสนอจัดตั้ง Bitcoin Spot ETF ที่ยังคงอยู่ในขั้นตอนพิจารณา
ความสำเร็จนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการบรรเทาแรงกดดันจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ต่อสกุลเงินดิจิทัล และยังเป็นการสนับสนุนกรณีตลาดกระทิงปี 2024 ตามคาดการณ์อีกด้วย นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Ethereum และเหรียญอื่นๆ อีกมากมายก็ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ต่อไปนี้คือโอกาสของ Ethereum หลังการตัดสินใจของศาล พร้อมด้วย 2 เหรียญคริปโตที่น่าจับตามอง
Ethereum เพิ่มขึ้น 4.6% ใน 24 ชั่วโมง
ชัยชนะที่ขาดลอยของ Grayscale ต่อ SEC ดูเหมือนจะบรรเทาแรงกดดันจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ต่ออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล โดยดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear and Greed Index) ของบิทคอยน์ได้เปลี่ยนจาก 39 เป็น 49 ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สิ่งนี้สามารถบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นถึงภาวะตลาดกระทิงของ Ethereum ได้หรือไม่ ?
เมื่อดูกราฟราคา Ethereum รายสัปดาห์ เราจะเห็นว่าเหรียญมีการซื้อขายในแนวโน้มขาขึ้นนับตั้งแต่พบแนวรับประมาณ 876 ดอลลาร์ ในเดือนมิถุนายน 2022
ตั้งแต่นั้นมา Ethereum ก็สร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้น และทำจุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2023
อย่างไรก็ตาม ราคาเริ่มร่วงลดลงนับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยร่วงลงมาทดสอบแนวรับบนเส้น EMA 200 วัน (สีน้ำเงิน) ในเดือนกรกฎาคม และอีกครั้ง หลังจากชัยชนะล่าสุดของ Grayscale
แนวรับที่แข็งแกร่งจากเส้น EMA ราย 200 วัน ถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับ Ethereum และเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการเคลื่อนตัวกลับไปขาขึ้น
นอกจากนี้ RSI กำลังส่งสัญญาณว่า Ethereum มีแรงกดดันด้านการขายมากเกินไป ซึ่งหมายความว่าผู้ขายหมดกำลังอ่อนแรง ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดภาวะกระทิงของ Ethereum ในระยะต่อไป
เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นแล้ว ระดับต่อไปที่เราคาดว่า Ethereum จะไปทดสอบคือระดับแนวต้านที่ 2,150 ดอลลาร์ ของเดือนเมษายน นอกจากนี้ ข่าวดีของ Grayscale และการเคลื่อนไหวของราคา Ethereum ที่แข็งแกร่ง อาจส่งผลให้ ETH เบรกแนวต้านที่ 2,150 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญต่อไปรออยู่ที่ 3,565 ดอลลาร์
ในทางกลับกัน ความกดดันจากหน่วยงานกำกับสกุลเงินดิจิทัลหรือเหตุการณ์ black swan อื่นๆ อาจบังคับให้ Ethereum ถูกปฏิเสธที่จะเบรกระดับแนวต้าน 2,150 ดอลลาร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทดสอบอีกครั้งที่ระดับราคา 1,400 ดอลลาร์ หรือกรณีเลวร้ายที่ประมาณ 876 ดอลลาร์
เทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงอย่าง @CryptoKaleo ก็เพิ่งแบ่งปันแนวคิดผ่านกราฟ โดยระบุระดับที่เป็นจุดหยุดถัดไปสำหรับ ETH
Wall Street Memes มั่นใจหลังระดมทุนได้ 25 ล้านดอลลาร์ พร้อมลิสต์เข้าตลาดเดือนหน้า
Wall Street Memes เป็นเหรียญมีมน้องใหม่ที่กำลังมาแรง สร้างขึ้นโดยชุมชนบนโซเชียลมีเดียชื่อ Wall Street Memes ที่มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคน ชุมชนนี้เปิดตัวในปี 2021 โดยโพสต์มีมเกี่ยวกับหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวเกี่ยวกับ Wall Street Bets และ GameStop
โปรเจกต์นี้ได้รับแรงผลักดันอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดตัวโครงการ NFT ที่ประสบความสำเร็จในชื่อ Wall St Bulls ซึ่งขายหมดภายใน 30 นาที และระดมทุนได้กว่า 2.5 ล้านดอลลาร์
หลังจากนั้น แบรนด์ก็เติบโตขึ้นอย่างทวีคูณ โดยมี Elon Musk ร่วมคอมเน้นบน Twitter ของ Wall Street Memes ทำให้แบรนด์เริ่มโด่งดัง และเปิดขายเหรียญมีมในช่วงพรีเซลล์ เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยระดมทุนได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ และเพิ่งได้ประกาศลิสต์บนเว็บเทรดระดับ tier-1
การสนับสนุนจาก Elon Musk และการลิสต์เหรียญเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยน tier-1 อาจทำให้ราคาเหรียญ Wall Street Memes เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึง Elon Musk Effect ที่เคยเกิดขึ้นกับราคา Dogecoin ก่อนหน้านี้
Wall Street Memes ยังเป็นคริปโตที่มีเสน่ห์ดึงดูดต่อคอมมูนิตี้เหรียญ Meme Coin ดังนั้นการได้เหรียญถูกลิสต์บนเว็บเทรดระดับ Tier-1 จึงอาจเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน Presale
อย่างไรก็ตาม เหลือเวลาเพียง 27 วันก่อนที่เหรียญจะถูกลิสต์เข้าสู่เว็บเทรดระดับ Tier-1 นักลงทุนมีเวลาเหลืออีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในการเข้าซื้อเหรียญ $WSM ในราคาพรีเซลล์ และหลังจากนั้นนักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เข้าดูรายละเอียด Wall Street Memes Presale ได้ที่นี่
Sonik Coin มียอดระดมทุนทะลุ 760,000 ดอลลาร์ มาพร้อมกับฟีเจอร์ Stake-to-Earn
อีกหนึ่งเหรียญที่น่าจับตามองคือ Sonik Coin ซึ่งเป็นเหรียญมีมแบบพรีเซลล์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ และยังได้รับแรงบันดาลใจจาก Sonic the Hedgehog มากล่าวถึงประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเหรียญมีม ซึ่งมีประโยชน์ไม่มาก แต่บอกเลยว่า Sonik Coin แตกต่างออกไป เนื่องจากมีฟีเจอร์ Stake-to-Earn ช่วยให้นักลงทุนได้รับรางวัลแบบพาสซีฟอินคัมจากการ Stake เหรียญ $SONIK
ทั้งนี้นักลงทุนสามารถเริ่ม Stake และรับผลตอบแทนได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้จบรอบพรีเซลล์
นี่อาจเป็นงานที่ท้าทาย แต่ Sonik Coin สามารถระดมทุนได้กว่า 760,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนสนใจความทรงจำในวัยเด็กและผลตอบแทนแบบพาสซีฟอินคัมของ Sonik Coin
ปัจจุบัน Sonik Coin มีมูลค่าตลาดเพียง 2 ล้านดอลลาร์ โดยมีอุปทานเหรียญ 50% ที่ถูกเปิดขายในช่วงพรีเซลล์ และหากโปรเจกต์บรรลุเป้าหมายในการทำให้มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ ก็จะทำให้มีมูลค่าตลาดของ Sonik เพิ่มประมาณ 25 เท่า จากระดับราคาในปัจจุบัน
เข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Sonik Coin Presale ได้ที่นี่
บทความนี้เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่เท่านั้น ทางผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนแต่อย่างใด คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์