ปี 2022 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับนักลงทุนคริปโต ขณะเดียวกันปีที่ผ่านมาก็ยังเป็นปีที่โหดร้ายสำหรับนักขุด Bitcoin อีกด้วย เนื่องจากราคา Bitcoin ลดลงในขณะที่ต้นทุนค่าไฟแพงขึ้น ดังนั้นนักขุดจำนวนมากจึงขาดทุน แม้ว่าพวกเขาจะทำเหมืองตลอดทั้งปีก็ตาม จนนักขุด Bitcoin หลายรายต้องจำใจขายอุปกรณ์ทำมาหากินของพวกเขา
อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในปีที่แล้วได้แสดงให้เห็นถึง ความอุตสาหะและการอดทนต่อความเจ็บปวดของนักขุด แต่ในปัจจุบันเมื่อราคา Bitcoin ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง นักขุดจึงหันกลับมาเข้ามามีส่วนร่วมกับเครือข่ายมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตรา Hashrate ของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า การที่จำนวนนักขุด Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างมากนั้น ได้ส่งผลให้อัตรา Hashrate ของ Bitcoin พุ่งสูงจนแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ATH) อย่างไรก็ตาม อัตรา Hashrate ของ Bitcoin กลับไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อัตรา Hashrate ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักขุดบางรายถอนตัวออกจากเครือข่ายหลังเมื่อเห็นราคา Bitcoin ลดลง
การเติบโตในลักษณะนี้ค่อนข้างคล้ายกับช่วงก่อนการ halving ในปี 2020 เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ราคาของ Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อัตรา Hashrate ของ BTC เติบโตอย่างก้าวกระโดด ท่ามกลางการรอคอย Halving ครั้งต่อไป เช่นเดียวกับปัจจุบัน
สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นแล้วว่า ถึงแม้หลังตลาดหมีในปี 2022 จะยาวนานกว่าและโหดร้ายกว่าตลาดหมีในปี 2018 แต่นักขุดก็ยังคงผลักดันเครือข่าย Bitcoin ต่อไป ด้วยความมั่นใจว่าพวกเขาจะรอดพ้นทุกวิกฤติไปได้ในท้ายที่สุด
ที่มา: reddit