นับตั้งแต่การล่มสลายของ FTX อุตสาหกรรมคริปโตก็อยู่ภายใต้การตรวจสอบด้านกฎระเบียบมากขึ้นกว่าที่เคย และหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ก็คือ Binance โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ Changpeng “CZ” Zhao CEO ของ Binance ได้ออกมาเน้นย้ำถึงความเข้มงวดของกฎระเบียบในคริปโตเคอร์เรนซีจากทั่วโลก และอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของวงการได้
ในวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา CZ ได้ออกมากล่าวถึงความท้าทายที่อุตสาหกรรมคริปโตกำลังเผชิญอยู่ ในงานประชุม Token2049 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเขาได้ออกมาเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ หลังจากการล่มสลายของ FTX
และตอนนี้หน่วยงานหลายๆ แห่งในเอเชียได้เพิ่มความเข้มงวดกับกฎระเบียบเป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นคือประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง ที่เมื่อเร็วๆ นี้ ได้จำกัดจำนวนเหรียญในการเทรดแล้ว
ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ เป็นตัวอย่างของแนวโน้มด้านกฎระเบียบที่ได้เพิ่มความท้าทายให้ผู้ใช้ที่จะเข้ามาในโลกคริปโตมากขึ้น
CZ ยังชี้ให้เห็นอีกว่า การให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตกำลังลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถาบันที่เคยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยน ที่ตอนนี้ต่างพากันเพิกถอนบริการของตน ซึ่งเหตุผลมาจากการถูกตรวจสอบทางด้านกฎระเบียบ
โดยมีกรณีตัวอย่างเช่นทาง Binance เองที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
ไม่ว่าจะเป็นการที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้ยื่นฟ้องเป็นจำนวนกว่า 13 ข้อหา ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการแลกเปลี่ยนโดยไม่ได้ลงทะเบียนไว้ หรือบิดเบือนการควบคุมและการกำกับดูแลการซื้อขาย เป็นต้น
ทางด้านกฎระเบียบในยุโรป Binance ยังต้องเผชิญกับการถูกสั่งปิดกระดานเทรดในเนเธอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรอีกด้วย
และทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความเข้มงวดที่เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ที่มา: DailyCoin