ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม เจ้าหนี้ของ FTX ได้ยื่นแผนเสนอขายเหรียญคริปโตที่ FTX ยังคงถือครองอยู่ ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าว ทรัพย์สินของ FTX จะได้รับการดูแลโดยที่ปรึกษาทางการเงิน โดยเสนอว่า FTX จะขายคริปโตได้เพียง 100 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่ขีดจำกัดนี้สามารถเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านดอลลาร์ต่อสัปดาห์ได้
ในที่สุด ผู้พิพากษาศาลเดลาแวร์ John Dorsey ก็ได้อนุมัติแผนดังกล่าวในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน โดยอนุญาตให้ FTX เริ่มการขายคริปโตมูลค่านับพันล้านดอลลาร์เพื่อนำไปชำระหนี้แก่เจ้าหนี้
ตามคำสั่งศาล เมื่อมีการขาย Bitcoin, Ether และเหรียญอื่น ๆ จะต้องแจ้งให้สำนักงานเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของสหรัฐฯ (U.S. Trustee) ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน
FTX กล่าวว่าต้องการป้องกันความเสี่ยงของ Bitcoin และ Ether เพื่อลดผลกระทบด้านการเคลื่อนไหวของราคาต่อรายได้จากการขาย แม้ว่าสินทรัพย์อื่น ๆ อาจได้รับการอนุมัติให้เป็นสินทรัพย์เพื่อการป้องกันความเสี่ยงอีกครั้งเป็นรายโทเค็น (token-by-token)
นอกจากนี้ FTX ยังกล่าวอีกด้วยว่าขอสงวนสิทธิ์ในการ Stake เหรียญบางส่วน โดยมีเงื่อนไขว่าผลตอบแทนจาก token staking programs จะช่วยคืนเงินให้กับเจ้าหนี้ได้มากขึ้น
ข้อกังวลในการติดตามผลการเทขายสินทรัพย์
ทนายความที่เป็นตัวแทนของคณะกรรมการเฉพาะกิจสำหรับลูกค้า FTX (ad hoc committee) กล่าวว่าพวกเขาสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ “เพื่อรักษาและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินของคู่ความ”
จากนั้นผู้พิพากษาก็ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการติดตามคริปโตของลูกค้าที่ฝากเงินกับ FTX ซึ่งทางทนายความของ FTX ได้ให้คำตอบกลับไปว่า “ไม่สามารถติดตามคริปโตแต่ละรายการได้” เนื่องจาก FTX ไม่มีวิธีที่จะระบุคริปโตแต่ละรายการว่าเป็นของใคร หมายความว่าเมื่อ FTX ขายคริปโต จะไม่มีทางรู้ว่าคริปโตนั้นมาจากลูกค้ารายใด
“มีสินทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับ Exchange เราเรียกว่า dot com customer pool และ U.S.pool แต่ไม่ได้ตรงกับสิทธิ์ของลูกค้าเสมอไป” ทนายความของ FTX กล่าว
“ดังนั้นเมื่อเราขายสิ่งนี้ เราจะเปลี่ยนเป็นเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ และเงินสดจะพร้อมสำหรับการแจกจ่ายตามแผน” เขากล่าวเสริม
ความกระวนกระวายใจเกี่ยวกับมูลค่าสินทรัพย์ที่ถูกเทขาย ได้ส่งผลให้เหรียญ Altcoin บางส่วนมีราคาลดลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาของ Bitcoin สามารถฟื้นตัวขึ้นได้สำเร็จในวันพุธ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 0.6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จนอยู่ที่ 26,232 ดอลลาร์ ในขณะที่เขียนบทความนี้
ที่มา: theblock