<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 เหรียญคริปโตที่เหมาะสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการโอนเงินข้ามประเทศนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ยังติดปัจจัยอยู่หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมที่สูงและระยะเวลาในการทำธุรกรรมที่ใช้เวลานาน

แต่ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้จำนวนการโอนเงินข้ามประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งได้ดึงดูดนักวิจัย ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการชำระเงิน หน่วยงานรัฐบาล และหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอีกด้วย

อ้างอิงข้อมูลจาก KNOMAD เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมพบว่า ในปีนี้ได้มีการโอนเงินเป็นมูลค่ากว่า 840 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วถึง 9 พันล้านดอลลาร์

ด้วยเหตุนี้ Finbold จึงได้รวบรวมเหรียญคริปโตมาสามสกุลเงินที่สามารถใช้ในการโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

XRP

XRP เป็นเหรียญที่สร้างขึ้นโดย Ripple ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสินทรัพย์ที่ใช้สำหรับชำระเงินระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นผู้ค้าปลีก และสถาบันการเงิน โดยตอนนี้เหรียญมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 28.44 พันล้านดอลลาร์ ที่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเพียงแค่ 0.0002 ดอลลาร์ และใช้เวลาในการโอนเพียงแค่ 3 ถึง 5 วินาที

Stellar (XLM)

XLM เป็นเหรียญประจำ Stellar Network ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Jed McCaleb ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple โดยตัว Stellar มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์ และมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 0.11 ดอลลาร์ ซึ่งข้อดีที่ทำให้ XLM เหมาะสำหรับการส่งเงิน ด้วยค่าธรรมเนียมที่ต่ำและมีความรวดเร็ว ซึ่งคล้ายกับ XRP

Nano (XNO)

ถึงแม้ว่าตัวเหรียญจะมีมูลค่าตลาดเพียงแค่ 90 ล้านดอลลาร์ และมีอุปทานหมุนเวียนอยู่ 133.24 ล้าน แต่ XNO มีข้อดีตรงที่ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม และใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 500 มิลลิวินาทีเท่านั้น จึงเหมาสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ XNO ยังเป็นเหรียญคริปโตแบบ Open-source ทำให้สามารถตรวจสอบโค้ตในตัวเหรียญได้อีกด้วย

ที่มา: Finbold