เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา นักขุดรายหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า Madness (@DarkSentence) ได้โพสต์เรื่องราวสุดช็อคของเขาลงใน Reddit เพื่อขอร้องให้ชุมชนคริปโตช่วยเขาตามหา Ethereum (ETH) ที่เขาสูญเสียไป
“ผมตกใจมาก ไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ๆ หรือเปล่า”
Madness เล่าว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักเทรด Ethereum มาก่อน ทว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ทุ่มเทเวลาไปกับการขุดคริปโตมากกว่าการเทรด พอรู้ตัวอีกที เขาก็ค้นพบว่าตัวเองไม่ได้เทรด Ethereum มานานมากแล้ว ดังนั้นในเดือนมีนาคม เขาจึงตัดสินใจถอนสินทรัพย์ทั้งหมดออกจาก CEX เพื่อเก็บ ETH ไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ปลอดภัยที่สุดในมุมมองของเขา ซึ่งก็คือ Metamask
Madness อธิบายว่าเขาเปิดดู ETH ใน Metamask เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 – 3 เดือนก่อน แต่หลังจากที่เขากลับมาเปิดดูอีกครั้งในวันนี้ กระเป๋า ETH ของเขาก็ว่างเปล่า
“วันนี้ผมเปิด Metamask หลังจากผ่านไปสองสามเดือน ผมสังเกตเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ: ETH ในกระเป๋าของผมที่แทบจะไม่ได้ใช้ มันหายไปแล้ว” Madness กล่าว
“หลังจากทุ่มเทในการขุดมานานหลายปี และแทบไม่ได้เทรดเลย แต่ Ethereum ทั้งหมดของผมไม่เหลือเลยสักนิด ผมโอนคริปโตของผมออกจาก CEX ในเดือนมีนาคมโดยคิดว่าเก็บมันไว้ที่นี้จะปลอดภัยกว่า แต่ผมดันเจอเรื่องแบบนี้ ในวันนี้”
Madness บ่นตัดพ้อ พร้อมกล่าวว่า เขาใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลบนเครือข่ายบล็อกเชนได้ไม่เก่งเท่าไรนัก แต่เขาก็พยายามวิเคราะห์ธุรกรรมเท่าที่ทำได้ จนในที่สุด เขาก็พบว่ามีใครบางคนโอน Ethereum ในกระเป๋าของเขาไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินหนึ่งแห่ง ก่อนที่ ETH ของเขาจะถูกส่งไปยังที่อยู่อื่น ๆ อีกหลายแห่งในปริมาณที่น้อยลง
“พวกเขาอาจใช้บริการของ Tornado Cash หรือบริการอื่นที่คล้าย ๆ กัน มีอะไรที่ผมพอจะทำได้อีกหรือเปล่า? ผมอยากตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม ผมไม่ได้แชร์ seed phrase ของผม หรือเก็บ seed phrase ไว้ในโลกออนไลน์ และหลังจากวันที่ 30 มีนาคม ผมก็ได้ลบแอปที่เชื่อมต่อบัญชี Metamask ของผมทั้งหมดแล้ว” Madness ขอความคิดเห็นจากชุมชนคริปโต พร้อมกับแนบลิงก์ etherscan ที่เชื่อมไปยังประวัติการทำธุรกรรมในกระเป๋าเงินของเขา:
https://etherscan.io/tx/0x246e8912883288ced56981de10b37d661fff29354c45daf0679f6e19775ebee1
ทั้งนี้ความคิดเห็นที่ได้รับการโหวตมากที่สุดคือความเห็นที่แนะนำว่า Madness ควรตรวจสอบที่อยู่ของผู้รับรายหนึ่ง โดยที่อยู่นี้ได้รับ ETH จาก Coinbase โดยตรง เป็นไปได้ว่า Coinbase จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ส่งไว้ เช่น ชื่อและที่อยู่อีเมล เพราะถ้าหาก Coinbase สามารถระบุตัวตนของผู้ส่งได้ พวกเขาก็อาจสามารถช่วย Madness ติดตามผู้ร้ายและ/หรือกู้คืน ETH ที่หายไปได้ นอกจากนี้ ความคิดเห็นดังกล่าวยังแนะนำให้ Madness ติดต่อ FBI เพื่อขอความช่วยเหลืออีกด้วย
ที่มา: reddit