หลังจาก Ethereum เปลี่ยนมาใช้กลไก Proof-of-Stake แทนที่จะเป็น Proof-of-Work เหมือนก่อนในเดือนกันยายนปีที่แล้ว บางสิ่งก็เปลี่ยนไป
ค่าธรรมเนียมของเครือข่ายยังคงอยู่ในระดับที่สูง แม้ว่าจะลดลงแล้ว แต่ความสนใจในการ Stake ก็ลดลงเช่นกัน
Proof-of-Stake บน Ethereum
หากต้องการที่จะ Stake บนเครือข่าย Ethereum จำเป็นต้องถือ Ethereum ไว้อย่างน้อย 32 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 51,000 ดอลลาร์
สิ่งนี้ทำให้การเปลี่ยน Validator สามารถเข้าถึงได้เฉพาะนักลงทุน ETH รายใหญ่เท่านั้น หรืออย่างน้อยมักน็ทำให้นักลงทุนรายเล็กเข้าถึงได้ยากขึ้น จนทำให้เกิดบริการที่เรียกว่า Stake-as-a-Service
Stake-as-a-Service เป็นบริการที่มีโหนด Validator ขนาดใหญ่ เช่น กระดานเทรดคริปโต เปิดให้นักลงทุนรายย่อยสามารถฝาก Ethereum ไว้กับพวกเขาเพื่อใช้ในการเปิดโหนดเพื่อแลกกับส่วนแบ่งรายได้
ดังนั้น เมื่อพูดถึงการ Stake เราต้องแยกระหว่างการ Stake ผ่าน PoS บนโหนด Validator หรือเพียงแค่การส่ง ETH ของตัวเองให้กับโหนด Validator
คิวกำลังลดลง
หากต้องการเปิดโหนด Validator เราจะต้องสมัครและรอคิวเพื่อที่จะเริ่มตรวจสอบความถูกต้องของเครือข่าย
ในช่วงที่มีผู้สมัครสูงสุดในเดือนมิถุนายน ผู้ที่ต้องการเปิดโหนดใหม่จะต้องรอคิวถึง 96,500 คิว ซึ่งต้องรอนานกว่า 45 วันถึงจะได้รับการอนุมัติและเริ่มตรวจสอบความถูกต้องของเครือข่าย แต่เมื่อวานนี้ คิวนี้กลายเป็น 0 ในช่วงเวลาสั้น ๆ และในตอนนี้มีอยู่ 996 คิว
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจในการเปิดโหนด Validatot บนเครือข่าย Ethereum ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมิถุนายน และลดลงมาจนเหลือศูนย์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
จำนวนของโหนด Validator ลดลงมาต่ำกว่า 580,000 โหนดในเดือนพฤษภาคม และเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า 600,000 โหนดในเดือนมิถุนายน และเพิ่มขึ้นจนถึง 860,000 โหนดในเดือนตุลาคม และค่อย ๆ นิ่งขึ้นตั้งแต่นั้นมา
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยก่อนหน้านี้จำนวนโหนด Validator ไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นมาเป็นเวลาไม่กี่วันในเดือนมิถุนายน แต่ในช่วงนี้มันนิ่งมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว
ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ราคา Ethereum อาจลดลงซึ่งทำให้โหนด Validator ไม่เพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เกิดปัญหาอะไรขึ้นกับการ Stake บนเครือข่าย Ethereum หรือไม่?
ดูเหมือนว่าการ Stake บนเครือข่าย Ethereum จะไม่ได้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
แต่การย้ายมา Stake บนเครือข่าย Ethereum อาจจะกำลังน้อยลงไป
ยิ่งไปกว่านั้น การขาดความสนใจในการ Stake บนเครือข่าย Ethereum อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็น ‘ข่าวร้ายสำหรับ Ethereum’ แต่เราอาจจะบอกได้ว่ามันเป็น ‘ข่าวดี’ สำหรับ Bitcoin
ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีรายงานปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความถูกต้องบนเครือข่าย Ethereum ดังนั้นความสนใจที่ลดลงอาจจะมาจากความสนใจใน Bitcoin ของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น
Source: The Cryptonomist